วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อันตราย! ไฟฟ้าสถิตที่ปั๊มน้ำมัน..บอลสเต็ป

 โดยสภาพทั่วไปของสถานีบริการน้ำมันที่ต้องบริการเติมน้ำมันเองนั้น ผู้ที่มาใช้บริการควรได้รับการเตือน เกี่ยวกับการเกิดไฟไหม้ ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสไฟฟ้าสถิตระหว่างที่เขากำลังเติมน้ำมันเพื่อความปลอดภัยบอลสเต็ป





ที่ผ่านมามีการสืบสวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในลักษณะ เดียวกันนี้ 150 อุบัติเหตุ ผลการสืบสวนเป็นที่น่าประหลาดใจ คือ
บอลสเต็ป
               1. จากอุบัติเหตุ 150 ครั้งที่เกิดขึ้น เกิดอุบัติเหตุกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงมีนิสัยที่จะเข้า-ออกรถระหว่างการเติมน้ำมันมากกว่าผู้ชาย
               2. ส่วนใหญ่พบว่า อุบัติเหตุเกิดจากผู้ใช้ยานพาหนะเข้าไปในยานพาหนะอีกครั้งระหว่างที่น้ำมัน กำลังไหลเข้าสู่ถัง (อันตรายจากหัวจ่ายน้ำมัน) เมื่อมีการเติมน้ำมันเรียบร้อย ผู้ใช้บริการออกจากรถเพื่อดึงสายจ่ายน้ำมันออกจากตัวถังรถ จะมีไฟไหม้ขึ้น เนื่องจากกระแสไฟฟ้าสถิต
               3. ผู้ใช้บริการที่เกิดไฟไหม้ส่วนใหญ่สวมรองเท้าส้นยางและสวมใส่เสื้อผ้าใยสังเคราะห์
               4. ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างเติมน้ำมัน
               5. เป็นที่ทราบกันว่า ไอน้ำมันซึ่งระเหยมาจากน้ำมันนั้น เผาไหม้และติดไฟได้ เมื่อมันทำปฏิกิริยากับวัตถุที่มีไฟฟ้าสถิต
               6. อุบัติเหตุไฟไหม้ที่นำมาสืบสวนจำนวน 29 ครั้ง พบว่าเกิดจากผู้ใช้บริการเข้าไปในรถอีกครั้งและกลับออกมาสัมผัสหัวจ่ายน้ำมัน ระหว่างการเติมน้ำมัน ซึ่งอุบัติเหตุแบบนี้เกิดขึ้นกับรถหลากหลายยี่ห้อและหลายรุ่น
               7. อุบัติเหตุไฟไหม้ 17 ครั้ง เกิดขึ้นก่อนหรือระหว่าง หรือหลังจากการเปิดฝาน้ำมันโดยทันที และเกิดก่อนการเติมน้ำมัน
               8. กระแสไฟฟ้าสถิต มักจะเกิดจากการที่เสื้อผ้าของผู้ใช้บริการเสียดสีกับผ้าคลุมเบาะที่นั่ง ระหว่างที่เข้าหรือออกจากรถ เพื่อจะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์นี้ มีคำแนะนำว่า ผู้โดยสารทุกท่านไม่ควรเข้าหรือออกจากรถ ระหว่างการเติมน้ำมัน การเข้าหรือออกจากรถ ควรกระทำก่อนการเติมน้ำมัน หรือเมื่อเติมน้ำมันเสร็จและปิดฝาถังเรียบร้อยแล้ว
               9. ใช้ความระมัดระวังอย่างสูง หากว่ามีน้ำมันหกเลอะและกระเด็นลงพื้น ไอน้ำมันซึ่งง่ายต่อการติดไฟ สามารถติดไฟง่ายโดยประกายไฟของไฟฟ้าสถิตจากการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์มือถือ รีโมตคอนโทรล หรือการจุดระเบิดโดยตัวเครื่องยนต์ของพาหนะเอง ดังนั้น ก่อนสตาร์ทรถ ควรทำความสะอาดน้ำมันที่หก โดยพนักงานของสถานีบริการน้ำมัน
บอลสเต็ป


บอลสเต็ป

               เพราะฉะนั้น วิธีเติมน้ำมันที่ถูกต้อง ควรปฏิบัติดังนี้ คือ ระหว่างอยู่ในรถ ให้หยุดรถ ดึงเบรกมือปิดสวิตช์เครื่องยนต์ วิทยุ และไฟ ที่สำคัญ ห้ามกลับเข้าไปในรถระหว่างกำลังเติมน้ำมัน

               และให้ระมัดระวังดังนี้ คือ ปิดประตูรถทุกครั้ง เมื่อเข้าหรือออกจากรถ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ประจุไฟฟ้าสถิต ไม่ทำงานเมื่อสัมผัสกับโลหะ หลังจากปิดประตูรถ พยายามสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะ ก่อนสัมผัสหัวจ่ายน้ำมัน การปฏิบัติเช่นนี้ กระแสไฟฟ้าสถิตในตัวคุณ จะหมดสภาพไปกับโลหะ ไม่ใช่กับหัวจ่ายน้ำมัน และที่สำคัญอย่าสูบบุหรี่บริเวณหัวจ่ายบอลสเต็ป

ความสำคัญของการอ่าน..บอลสเต็ป

แนวทางของกรมวิชาการในการพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้ความสามารถโดยส่งเสริม ให้เยาวชนมีนิสัยรักการอ่าน รู้จักศึกษาหาความรู้เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน โดยริเริ่มโครงการรณรงค์เพื่อการส่งเสริมการอ่าน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2528 เป็นต้นมาและมีการเผยแพร่เทคนิคการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านอย่างกว้างขวาง เช่น ส่งเสริมการอ่านในโรงเรียนทั่วประเทศ โดยมีนโยบายมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด มีการจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนสามารถคิดเป็นทำเป็นมีนิสัยรักการอ่านและเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง (กรมวิชาการ.2544 : 1)บอลสเต็ป

              ยิ่งในโลกยุคปัจจุบันจะต้องสร้างความตระหนัก และฝึกฝนให้เป็นคนใฝ่รู้ใฝ่เรียนยิ่งขึ้น จะต้องอ่านเก่ง คิดเป็น และสื่อสารเป็นจึงจะอยู่ได้อย่างมีความสุข และประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต
บอลสเต็ป
              การอ่านสำหรับประเทศไทยหรือคนไทยแล้วถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมากๆ เมื่อเทียบกับพลเมืองประเทศอื่นๆ การส่งเสริมการอ่านควรได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย อาทิ

               รัฐควรส่งเสริมเรื่องห้องสมุดประจำหมู่บ้านและชุมชน
               หนังสือที่ผลิตจำหน่ายในท้องตลาดไม่ควรมีราคาแพงเกินไป รัฐควรเข้ามาชดเชยส่วนต่างแก่ผู้ผลิต เรียกว่าการประกันรายได้ของผู้ประกอบการ
               หนังสือควรมีเนื้อหาน่าสนใจ หลากหลาย หาอ่านได้ง่าย
               ส่งเสริมให้พ่อแม่ปลูกฝังให้เด็กรักการอ่านหนังสือ
               มีการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ให้คนไทยรักการอ่านมากยิ่งขึ้น
               หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงคือ โรงเรียนควรมีห้องสมุดเปิดกว้างสำหรับเด็ก ไม่ควรจัดห้องสมุดเพื่อประกวดความสวยงาม แต่ควรเน้นที่กิจกรรมการอ่านมากกว่า

              การพัฒนาคนให้มีคุณภาพสูงจะต้องใช้กระบวนการทางการศึกษาเป็นหลัก คนที่ได้รับการศึกษา (ทั้งทางตรงและทางอ้อม) เท่านั้นจึงจะเป็นผู้ที่คิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาด (ถวัลย์ มาศจรัส. 2538 : 10)
บอลสเต็ป
              การอ่านหนังสือนั้นมีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อชีวิตคนเราอย่างยิ่ง จินตนาใบกาซูยี (2543 : 23) ได้สรุปบทบรรยายของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือว่า

              1. การอ่านหนังสือทำให้ได้เนื้อหาสาระความรู้มากกว่าการศึกษาหาความรู้ด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การฟัง
              2. ผู้อ่านสามารถอ่านหนังสือได้โดยไม่มีการจำกัดเวลาและสถานที่สามารถนำไปไหนมาไหนได้
              3. หนังสือเก็บได้นานกว่าสื่ออย่างอื่นซึ่งมักมีอายุการใช้งานจำกัด
              4. ผู้อ่านสามารถฝึกการคิดและสร้างจินตนาการได้เองในขณะอ่าน
              5. การอ่านส่งเสริมให้มีสมองดี มีสมาธินานกว่าและมากกว่าสื่ออย่างอื่น ทั้งนี้ เพราะขณะอ่าน จิตใจจะต้องมุ่งมั่นอยู่กับข้อความพินิจพิเคราะห์ข้อความนั้นๆ
              6. ผู้อ่านเป็นผู้กำหนดการอ่านได้ด้วยตนเอง จะอ่านคร่าวๆ อ่านละเอียด อ่านข้ามหรืออ่านทุกตัวอักษรเป็นไปตามใจของผู้อ่านหรือจะเลือกอ่านเล่มไหนก็ได้ เพราะหนังสือมีมาก  สามารถเลือกอ่านเองได้
              7. หนังสือมีหลากหลายรูปแบบและราคาถูกกว่าสื่ออย่างอื่น จึงทำให้สมองของผู้อ่านเปิดกว้าง สร้างแนวคิดและทัศนคติได้มากกว่า ทำให้ผู้อ่านไม่ติดยึดอยู่กับแนวคิดใดๆโดยเฉพาะ
              8. ผู้อ่านเกิดความคิดเห็นได้ด้วยตนเองวินิจฉัยเนื้อหาสาระได้ด้วยตนเอง รวมทั้งหนังสือบางเล่มสามารถนำไปปฏิบัติแล้วเกิดผลดี

              ประเภทของการอ่านการอ่านหนังสือแต่ละชนิดเราใช้อัตราเร็วในการอ่านต่างกัน ถ้าเป็นหนังสือพิมพ์หรือนวนิยายเราอ่านได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเป็นหนังสือวิชาการ เราต้องใช้เวลาในการอ่านมากขึ้น นักอ่านที่เชี่ยวชาญจะเลือกใช้วิธีการอ่านที่แตกต่างกัน ในการอ่านหนังสือแต่ละประเภท นักเรียนจะสามารถเก็บข้อมูลความรู้ได้ดีมากขึ้น ถ้ามีความสามารถในการอ่านแบบต่างๆ ได้หลายแบบ และเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม
บอลสเต็ป
การอ่านแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้
              1. การอ่านแบบกวาด (Scanning) เป็นการมองหาประเด็น สำคัญอย่างรวดเร็วเช่น หาหน้า หาชื่อเรื่อง หาคำสำคัญบางคำประเด็นสำคัญของการอ่านแบบนี้คือ นักเรียนตั้งใจที่จะมองข้ามสิ่งอื่นๆ นอกจากสิ่งที่นักเรียนต้องการหา

              2. การอ่านอย่างคร่าวๆ (Skimming) คือการอ่านอย่างเร็วๆ เพื่อดูว่ามีเนื้อหาสาระอะไรที่น่าสนใจบ้าง โดยไม่ตั้งใจที่จะค้นหาสิ่งที่เฉพาะเจาะจงเหมือนอย่างการอ่านกวาดเช่น นักเรียนหยิบหนังสือเกี่ยวกับสังคมขึ้นมาเล่มหนึ่งแล้วพลิกอ่าน มองหาแนวคิดสำคัญๆในแต่ละย่อหน้า มองดูชื่อบทและอื่นๆ เพื่อสำรวจว่าหนังสือเล่มนี้น่าสนใจ หรือมีประโยชน์ที่นักเรียนจะใช้ได้หรือไม่

              3. การอ่านแบบสบายๆ เป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่อ่านหนังสือกัน เช่น การอ่านนิยายการ์ตูน วารสารเพื่อความบันเทิง บ่อยครั้งการ์ตูน วารสารเพื่อความบันเทิงบ่อยครั้งเป็นการอ่านเพื่อหลบหนีจากโลกจริงที่มีแต่ปัญหาและความยุ่งยากใจไปสู่อีกโลกหนึ่ง เราไม่มีความจำเป็นต้องย่อยเนื้อหาเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องอ่านอย่างพินิจพิจารณา การอ่านวิธีนี้จะอ่านได้อย่างรวดเร็วและผิวเผิน การอ่านเช่นนี้มีคุณค่าที่สำคัญคืออ่านเพื่อความบันเทิง ทำให้เกิดความสุข ความโล่งใจ ทำให้ผ่อนคลายความตึงเครียดได้

              4. การอ่านเพื่อการศึกษา การอ่านหนังสือประเภทตำราวิชาการต่างๆ จุดมุ่งหมายก็คือต้องการที่จะทำความเข้าใจในเนื้อหาวิชาอย่างแท้จริง การอ่านแบบนี้ต้องอ่านอย่างตั้งใจ จับประเด็นสำคัญที่อ่านให้ได้ สามารถโยงความสัมพันธ์ในสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกันได้ การอ่านเพื่อการศึกษาควรจดโน้ตย่อใจความ หรือหัวข้อสำคัญที่ได้อ่านมาด้วย

              5. การอ่านแบบคำต่อคำ มีหนังสือหรือบทความบางอย่างที่ต้องการอ่านแบบคำต่อคำ เช่น หนังสือสัญญา หนังสือภาษาต่างประเทศสูตรคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เราอ่านภาษาต่างประเทศแบบคำต่อคำ ในกรณีที่เราเพิ่งเรียนรู้ภาษานั้นๆ คำทุกคำเป็นคำใหม่ที่เราไม่คุ้นเคย สำหรับคนที่อ่านภาษาต่างประเทศได้คล่องแล้วเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเขาอาจจะอ่านแบบอื่นๆ ได้ ทำนองเดียวกับการอ่านหนังสือภาษาไทย สูตรคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ต้องให้ความสนใจมาก เพราะสูตรเป็นวิธีย่อ เพื่อให้ได้ข้อความที่มีความหมายยาวขึ้น โดยไม่เสียเวลาอธิบายบอลสเต็ป

กระบวนการผลิตน้ำนมดิบ..บอลสเต็ป

เมื่อโคตัวเมียอายุได้ประมาณ 15-18 เดือน ก็พร้อมที่จะผสมพันธุ์ ใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 265-300 วัน แล้วแต่พันธุ์โค ในระยะที่แม่โคตั้งท้องจะมีฮอร์โมนเอสโทรเจน (estrogen) และโพรเจสเทอโรน (progesterone) กระตุ้นให้กระเปาะ- สร้างน้ำนมเติบโตขยายขนาดขึ้น และทำให้เต้านมโตขึ้น เมื่อใกล้คลอดจะมีฮอร์โมนแล็กโทเจน (lactogen) กระตุ้นให้กระเปาะสร้างน้ำนมเริ่มทำหน้าที่สร้างน้ำนมพร้อมๆ กันกับขณะที่คลอดลูกทำให้สามารถเลี้ยงลูกโคได้เกือบทันที แม่โคจะให้น้ำนมหรือมีช่วงเวลาการให้นมประมาณ 300 วันบอลสเต็ป

              หลังจากคลอดลูกได้ 1-2 เดือน แม่โคจะเริ่มติดสัตว์และผสมพันธุ์ได้อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นจึงมีเวลาเว้นจากช่วงเวลาการให้นมประมาณ 3 สัปดาห์ ในตอนปลายของช่วงเวลาการให้นม ปริมาณน้ำนมที่ได้จะลดน้อยลงตามลำดับจนหมดไป เนื่องจากลูกโคตัวใหม่ในท้องต้องการอาหารเพิ่มขึ้น เมื่อคลอดลูกโคตัวใหม่แล้วก็จะให้นมอีกครั้ง ต่อจากนี้แม่โคจะให้น้ำนมได้อีกประมาณ 5 ปี โดยในระยะแรกๆ จะให้นมได้ไม่มาก ปกติช่วงให้นมครั้งที่สามเป็นช่วงเวลาที่ให้นมสูงสุดบอลสเต็ป




บอลสเต็ป
              น้ำนมเป็นสารประกอบจากธรรมชาติที่มีส่วนประกอบทางเคมีที่ซับซ้อน กระเปาะสร้างน้ำนมจะสกัดธาตุอาหารต่างๆ จากเลือดที่ไหลผ่านเส้นเลือดฝอยซึ่งพันอยู่โดยรอบ แล้วเปลี่ยนเป็นส่วนประกอบของน้ำนม มีผู้ประมาณว่า ปกติเลือดจะไหลผ่านเต้านมวันละ 90,000 กิโลกรัม และเลือดประมาณ 400-800 กิโลกรัม สามารถสร้างน้ำนมได้ 1 กิโลกรัม

              แม่โคจะรู้สึกคัดเต้านมถ้าไม่มีการปล่อยน้ำนมให้ลูกกินหรือไม่ถูกรีดนม เมื่อลูกโคเอาหัวกระทุ้งบริเวณเต้านม ต่อมหมวกไตจะปล่อยฮอร์โมนออกซิโทซิน (oxytocin) ออกมาทางเส้นเลือด ทำให้เซลล์ประสาทที่พันรอบกระเปาะสร้างน้ำนมรัดตัว ขับน้ำนมออกไปที่ถุงพักน้ำนม ฮอร์โมนนี้จะออกฤทธิ์นานประมาณ 7 นาที



บอลสเต็ป

              การรีดนมแบบใช้มือจึงเป็นการเลียนแบบลูกโค โดยใช้มือกระทุ้งเต้านมก่อน ซึ่งแม่โคที่ได้รับการฝึกมาแล้วจะปล่อยน้ำนมออกมาให้คนรีดอยู่ประมาณ 5-7 นาที ถ้านานกว่านี้ แม่โคจะไม่ให้นม เพราะฮอร์โมนออกซิโทซินหมดฤทธิ์ หรือถ้าแม่โคตกใจ ต่อมหมวกไตจะปล่อยฮอร์โมนอะดรีนาลิน (adrenalin) ออกมาทำลายออกซิโทซิน ดังนั้นเวลารีดนม คนรีดนมอาจใช้วิธีให้อาหารข้น เปิดเพลงเบาๆ หรือเปิดโทรทัศน์ให้แม่โคเพลิดเพลินไม่ตกใจง่าย

              ในฟาร์มโคนมขนาดกลางและขนาดใหญ่อาจต้องใช้เครื่องรีดนม ซึ่งดูดจากหัวนมด้วยระบบสูญญากาศตามปกติ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมจะรีดนมวันละ 2 ครั้ง คือ ช่วงเช้าและช่วงเย็น น้ำนมที่ได้มักใส่ถังนมขนาดบรรจุ 30-50 ลิตร แล้วนำส่งศูนย์รับนมหรือโรงงานแปรรูปนมที่ใกล้เคียงโดยเร็วในต่างประเทศ เกษตรกรมักมีเครื่องทำความเย็น ซึ่งสามารถเก็บน้ำนมดิบในระดับอุณหภูมิ 2-6 องศาเซลเซียส ไว้ได้ 3-4 วัน รอรถขนส่งนมจากโรงงานมารับ

              เมื่อน้ำนมดิบมาถึงโรงงานก็จะนำมาชั่งน้ำหนักและใส่ถังเหล็กกล้าปลอดสนิม มีเครื่องทำความเย็นและฉนวนหุ้มถัง เพื่อรักษาอุณหภูมิไม่ให้เกิน 4 องศาเซลเซียส ภายในถังมีเครื่องกวนไม่ให้ไขมันลอยตัว มีเทอร์โมมิเตอร์ และเครื่องวัดปริมาณน้ำนม
บอลสเต็ป
              ศูนย์รับนมหรือโรงงานแปรรูปนม จะมีการตรวจสอบคุณภาพของนม โดยนำตัวอย่างน้ำนมดิบใส่หลอดแก้วแล้วดูสี ชิมรส และดมกลิ่น ตรวจสอบความสะอาดและการตกค้างของฝุ่นละอองและสิ่งเจือปน ตรวจหาปริมาณจุลินทรีย์ โดยเมทิลีนบลูและรีซาซูริน (methylene blue and resazurin tests) ซึ่งปัจจุบัน  ในห้องปฏิบัติการที่ทันสมัยได้ใช้เครื่องมือนับจุลินทรีย์ นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบปริมาณไขมันอีกด้วย การตรวจสอบคุณภาพดังกล่าว ทำให้สามารถกำหนดราคาน้ำนมดิบที่แตกต่างกันตามคุณภาพได้

ล้างใจให้ปลอดโปร่งโล่งสบาย..บอลสเต็ป

เก็บกวาดสิ่งที่รกสมองออกไปให้หมด ถึงเวลาที่คุณจะคืนพื้นที่ให้สมอง เพื่อให้เกิดความปลอดโปร่งโล่งสบายบอลสเต็ป

              นอนไม่หลับเพราะงานกองสุมหัวหงุดหงิดเพราะต้องรอคิวนาน แม่สามีเอาเรื่องชวนปวดหัวมาให้สารพันปัญหาเหล่านี้ ทำให้สมองของคุณหนักอึ้ง ถึงเวลาที่คุณต้องจัดระเบียบสิ่งที่อยู่ในหัวของคุณ หาวิธีทำจัดต้นเหตุแห่งความเครียดที่อยู่กับคุณเป็นอาจิณ แล้วคุณจะรู้สึกมีความสุขมากขึ้น และหากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหน เรามีคำตอบมาให้...

ความเครียดแบบที่ 1 มีงานรัดตัวจนกระดิกกระเดี้ยไม่ได้ สุดท้ายงานก็ไม่เสร็จสักอย่าง!

ทางแก้
              "แจกแจงงานทั้งหมด จัดลำดับความสำคัญของงานที่ต้องทำก่อนหลัง" ดร.แคตติ มอสส์ อายุรแพทย์กล่าว "เขียนความคิดต่างๆ ในหัวลงบนกระดาษ จะได้มีที่ว่างในหัวของคุณมากขึ้น เมื่อคุณเขียนรายการงานที่ต้องทำแล้ว ให้โยนสิ่งที่สุมอยู่ในหัวคุณทิ้งไปซะ จากนั้น เริ่มลงมือทำงาน ถึงตรงนี้ให้ถามตัวเองถึงงานที่ต้องทำ "คุณจำเป็นต้องทำงานนี้จริงหรือไม่" แล้วคุณจะแปลกใจที่หลายครั้งคำตอบที่ได้ คือ "ไม่" จะเห็นว่า การแจกแจงรายการงานที่ต้องทำในครั้งแรก คือการสร้างพื้นที่ว่างให้สมอง แต่การแจกแจงรายการในครั้งที่สอง คือรายการงานที่ต้องทำจริง ซึ่งไม่ควรมีเกินกว่า 10 รายการบอลสเต็ป

ความเครียดแบบที่ 2 ฉันกังวลเรื่องงานอยู่ตลอดเวลา!

ทางแก้
              แม้จะรู้ดีว่าวิตกกังวลใจไปก็ไร้ประโยชน์ แต่เราทุกคนก็อดไม่ได้ ถามตัวเองดูสิว่า ความวิตกกังวลเปลี่ยนอะไรๆ ให้ดีขึ้นได้หรือไม่ หากได้ก็จงวิตกกังวลต่อไป หากไม่ได้ จงหายใจเข้าลึกๆ นับ 1 ถึง 10 นึกถึงแต่เรื่องที่มีความสุข เผชิญความวิตกกังวลด้วยความเบิกบาน

              "ความเบิกบานใจเป็นพื้นฐานของการใช้ ชีวิตอย่างมีความสุข ทำให้คุณรู้จักมองความทุกข์ได้เข้าถึงอย่างรอบด้าน โดยให้ความสำคัญกับมันน้อยลง" ลิซ ทักเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความเครียดกล่าว วางแผนทำกิจกรรมที่สร้างความสุขให้ตัวเองอย่างน้อยวันละหนึ่งอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการคุยกับเพื่อน เดินเล่นในสวนสาธารณะ กินอาหารอร่อยๆ ที่ภัตตาคาร หรือแม้แต่การอาบน้ำอย่างสบายใจด้วยสบู่หรือแชมพูกลิ่นหอมสดชื่นบอลสเต็ป

ความเครียดแบบที่ 3 ฉันไม่กล้าปฏิเสธเวลามีคนมาขอความช่วยเหลือจากฉัน มันทำให้ฉันแทบบ้าตาย!

ทางแก้บอลสเต็ป
              ถึงเวลาที่พลังอำนาจของคำว่า "ไม่" เข้ามามีบทบาท ซึ่งตรงข้ามกับความเชื่อของคนส่วนใหญ่ การเซย์โนไม่จำเป็นต้องก่อให้เกิดผลลบเสมอไป หากคุณชอบพูดคำว่า "ได้ค่ะ" กับทุกเรื่อง แล้วต้องมานั่งเครียดกับเรื่องพวกนี้ในภายหลัง คงถึงเวลาที่คุณต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวางภารกิจต่างๆ ลงบ้าง รวมถึงรู้จักตอบปฏิเสธ เริ่มจากการตอบปฏิเสธใครสักคนอย่างน้อยวันละครั้ง แต่อย่าใช้น้ำเสียงเกรี้ยวกราดอธิบายเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ โดยพูดทำนองว่า "วันนี้ฉันคงช่วยทำไมได้ แต่ถ้าเป็นอาทิตย์หน้าไม่มีปัญหา" มาดูสิว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป พวกเขาอาจไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นแทน ไม่ช้าคุณจะรู้สึกมั่นใจ และกล้าที่จะตอบปฏิเสธในเวลาที่จำเป็น คุณจะเริ่มสังเกตพบว่าความรู้สึกของคุณดีขึ้น การตอบปฏิเสธทำให้คุณมีพลังอำนาจและสุขุมเยือกเย็น





ความเครียดแบบที่ 4 หงุดหงิดร้อนใจอยู่เรื่อย!บอลสเต็ป

ทางแก้
              อดโมโหไม่ได้เวลาที่แม่สามีติว่า อาหารที่คุณทำรสชาติไม่เป็นสับปะรดหรือพูดใส่อารมณ์กับสามี เวลาที่คุณเห็นเขาทิ้งผ้าเช็ดตัวบนเตียง หรือเถียงกับน้องสาวด้วยเรื่องเดิมๆ ว่าใครติดหนี้ใคร ถ้าเหล่านี้คือปัญหาของคุณ มีวิธีแก้ง่ายๆ คือ หายใจลึกๆ 5 ครั้ง นับ 1 ถึง 10 หรือมิฉะนั้นก็เดินออกจากห้องไปเลย แล้วเดินกลับเข้ามาใหม่เมื่ออารมณ์เย็นลง จากนั้นจัดการกับปัญหาด้วยอารมณ์ขัน โดยพูดว่า "ละอายใจจังที่แม่ไม่ปลื้มอาหารที่หนูทำ ถ้างั้นไปซื้ออาหารปรุงสำเร็จมาทานกันดีไหมคะ" หรือ "บอกฉันหน่อยได้ไหมว่า นิสัยอย่างไหนของฉันที่คุณไม่ชอบ ถ้าฉันเลิกทำนิสัยแบบนั้น คุณก็ควรเลิกทำนิสัยแบบนี้" หรือพูดว่า "เราเลิกทะเลาะกันด้วยเรื่องแบบนี้เถอะ เปลี่ยนเรื่องพูดดีกว่า...เอ่อ งานใหม่ของเธอเป็นยังไงบ้าง"

              การแก้เผ็ดที่ดีที่สุดคือการทำใจให้เย็น พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองในเวลาที่คนอื่นควบคุมอารมณ์ของตนไม่ได้ แล้วคุณจะรู้สึกเหมือนเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะมากกว่าเป็นวัยรุ่นใจร้อน แต่ถ้ายังรู้สึกเครียดหรือหงุดหงิดไม่หาย เลสลี่ เคนตัน กูรูด้านสุขภาพแนะให้ลองทานโสมซึ่งมีสรรพคุณช่วยบำบัดความเครียด "นำรากโสมตากแห้ง 25 กรัมผสมกับชา 1 ถ้วย ดื่มแก้เครียด"

ความเครียดแบบที่ 5 ฉันติดรายการข่าว ชอบฟังเรื่องกอสซิปขาดไม่ได้เลย ทำยังไงให้สมองปลอดโปร่งไม่เครียดกับข่าวที่รับฟังมาทั้งวัน!

ทางแก้
              การหยุดพักไม่รับข่าวสารจากหนังสือพิมพ์หรือทีวีสักหนึ่งวัน จะทำให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แทนที่จะเอาแต่นั่งเสพข่าว คุณน่าจะเอาเวลาไปจัดการกับข้าวของที่วางระเกะระกะซึ่งทำให้บ้านรกดีกว่า ถามตัวเองดูสิว่า การเสพข่าวสารเป็นกลวิธีหลีกหนีจากความวุ่นวาย ทำให้คุณได้พักผ่อนสมองจริงหรือไม่

              ขั้นต่อไปคือ การดีท็อกซ์สิ่งแวดล้อมรอบตัว การเก็บกวาดห้องให้เป็นระเบียบคือการทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง ไม่สับสนวุ่นวาย เริ่มจากประกาศวันทิ้งขยะ ซึ่งเป็นวันที่คุณจะสำรวจข้าวของที่ไม่ใช้ เก็บกระดาษทุกแผ่นมัดรวมกัน ดูว่ากระดาษแผ่นไหนเป็นเอกสารสำคัญหรือต้องโยนทิ้ง ลบอีเมล์ขยะทิ้ง และลบอีเมล์แอดเดรสของคุณออกจากลิสต์รายชื่ออีเมล์ เวลากรอกข้อมูลแบบฟอร์มใดๆ ในเว็บไซต์ ให้ทำเครื่องหมายที่ช่อง "ไม่" รับข้อมูลเสริมใดๆ และอย่าให้อีเมล์แอดเดรสของคุณกับเว็บไซต์ใดๆ หากไม่จำเป็น

ดูแลบ้านให้ปลอดโรค..บอลสเต็ป

ห้องนอน
1. ย้ายทีวีออกจากห้องนอนบอลสเต็ป
            มีผลสำรวจออกมาว่าคู่รักที่ไม่มีทีวีอยู่ในห้องนอน มีความสุขกว่าคู่รักที่มีทีวีในห้องนอนถึง 2 เท่า การไม่มีทีวีในห้องนอนทำให้ได้เข้านอนเร็วขึ้นอย่างน้อย 30 นาที นั่นหมายถึงเวลาที่ร่างกายได้พักผ่อนเพื่อซ่อมแซมตัวเอง รวมถึงการได้หลับเต็มอิ่มกว่าเดิม ทำให้ตื่นขึ้นมาอย่างสดใสกระปรี้กระเปร่า ย้ายทีวีออกไปจากห้องนอนของคุณยังช่วยให้คุณมีเวลาจู่จี๋กับคนรักมากขึ้นด้วย หากใครยังทำใจย้ายเจ้าจอสี่เหลี่ยมออกไปไม่ได้ ลองกำหนดให้สัก 2 วันในสัปดาห์เป็นวันที่คุณและคนรักเข้านอนโดยไม่ต้องดูทีวีดูก็ได้ค่ะ

2. เปลี่ยนหมอนใบใหม่
            ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนหมอนใบเดิมบ้างแล้ว หากหมอนที่คุณใช้อยู่เริ่มจะเก่า แถมปลอกหมอน หรือผ้าที่หุ้มอยู่ก็เริ่มสึกจนบาง หรือเส้นใยไม่เกาะตัวแน่นเหมือนเดิม เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ไรฝุ่นเข้าไปอาศัยอยู่ได้ง่าย รวมถึงละอองฝุ่นจากใยสังเคราะห์หรือนุ่นที่ยัดเอาไว้ฟุ้งออกมาได้เช่นกัน ดังนั้น เปลี่ยนหมอนใบใหม่โดยเลือกหมอนที่หุ้มด้วยผ้าที่เส้นใยทอทึบแน่น หากเป็นไปได้เลือกหมอนที่ยัดไส้โดยขนสัตว์ เพราะมีอายุการใช้งานนานกว่าไส้ยัดที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ค่ะบอลสเต็ป

3.ทำความสะอาดเสื้อ ผ้าในตู้เสื้อผ้า
            เสื้อผ้าที่คุณไม่ค่อยได้หยิบออกมาใส่บ่อยนัก อย่างเสื้อแจ็กเก็ต หรือเสื้อกันหนาว หากแขวนทิ้งเอาไว้ในตู้นอกจากเป็นที่อยู่ของฝุ่น ยังมีเชื้อโรคมาร่วมแฝงตัวด้วย จึงควรนำออกมาซักทำความสะอาดบ้าง เพียงสองครั้งต่อปีก็ถือว่าเพียงพอแล้ว สำหรับเสื้อผ้าที่เป็นขนสัตว์ที่เก็บกักฝุ่นได้ดีกว่า ก็อย่าลืมหาถุงพลาสติกสำหรับคลุมเสื้อผ้ามาคลุมไว้ด้วยบอลสเต็ป





ห้องครัว
1. ทำความสะอาดขวดเครื่องปรุงบนโต๊ะกินข้าว
            บรรดาขวดเครื่องปรุงต่างๆ บนโต๊ะกินข้าว ไม่ว่าจะเป็นขวดซอส หรือกระปุกเกลือพริกไทย มักเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคซึ่งจับอยู่บริเวณรอบๆ ภาชนะ แม้คุณจะเช็ดโต๊ะกินข้าว แต่คุณแทบไม่เคยเช็ดขวดเครื่องปรุงเหล่านี้เลย เมื่อเกิดการไอหรือจามระหว่างทานอาหาร ละอองน้ำลายซึ่งอาจปนเปื้อนเชื้อโรคก็จะกระเด็นไปจับ และสะสมอยู่ที่ขวดเครื่องปรุงเหล่านี้ เพราะฉะนั้นยามเช็ดโต๊ะทานข้าวทุกครั้ง ก็อย่าลืมทำความสะอาดขวดเครื่องปรุงต่างๆ ด้วยนะคะ

2. ทำความสะอาดฟองน้ำล้างจาน
            อุปกรณ์ช่วยทำควาสะอาดอย่างฟองน้ำล้างจานเอง ก็สามารถเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้เช่นกัน ทั้งเศษอาหารและความชื้น ทำให้ฟองน้ำเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค รวมถึงไวรัสที่ทำให้เป็นหวัดได้ด้วย เมื่อคุณใช้ฟองน้ำล้างจาน หรือเช็ดทำความสะอาดอ่างล้าง ก็เท่ากับคุณคุณกำลังป้ายเชื้อโรคนับล้านตัวให้กระจายออกไปบนพื้นผิวอื่นๆ เพื่อป้องกันปัญหาฟองน้ำกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค แช่ฟองน้ำในน้ำอุ่นจัดสัก 1 นาทีทุกครั้งหลังการใช้งานจะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 95% เลยทีเดียว

3. ทำความสะอาดตู้เย็น
            บริเวณประตูโดยเฉพาะส่วนมือจับของตู้เย็น สามารถเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้มากกว่าที่รองนั่งของชักโครกถึง 200 เท่า ไม่รู้กี่มือต่อกี่มือที่ไม่อาจแน่ใจว่าสะอาดหรือไม่ จับตู้เย็นเปิดปิดอย่างน้อย 5 ครั้งในหนึ่งวัน แถมตู้เย็นยังมักถูกวางในที่ไกลแสง มีทั้งความเย็นและความชื้น อันเหมาะต่อการอยู่อาศัยของเชื้อโรค ทำให้กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอีกที่หนึ่งซึ่งมักโดนมองข้าม หากต้องการหลีกไกลจากเชื้อโรคพวกนี้ เพียงเช็ดทำด้วยน้ำยาทำความสะอาดบ้างแค่สัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอบอลสเต็ป

4. ทำความสะอาดอ่างล้างจาน
            อ่างล้างจานที่คุณใช้ในการชำระคราบอาหารออกจากภาชนะ รวมถึงล้างของสดต่างๆ กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นทุกครั้งหลังจากใช้อ่างเสร็จแล้ว เช็ดทำความสะอาดอ่างด้วยน้ำผสมน้ำยาทำความสะอาด เท่านี้คุณก็ลดโอกาสอยู่รอดของเหล่าเชื้อโรคได้มากกว่าครึ่ง





อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน
1. เปลี่ยนผ้าถูบ้าน
            จากผลสำรวจพบว่า ผ้าขี้ริ้วที่ใช้ถูบ้านสามารถกักเก็บเชื้อโรคได้ดีกว่าการใช้ฟองน้ำถูบ้านอยู่ถึงเท่าตัว เปลี่ยนจากผ้าถูบ้านผืนเก่ามาใช้ฟองน้ำแทน ผสมน้ำยาทำความสะอาดพื้นลงในน้ำสำหรับถู และอย่าลืมนำไปตากให้แห้งสนิททุกครั้งหลังการใช้งาน

2. เปลี่ยนถุงเก็บฝุ่นในเครื่องดูดฝุ่น
            เครื่องดูดฝุ่นเปรียบเสมือนบ้านติดล้อของเจ้าเชื้อโรคทั้งหลาย โดยเชื้อโรคจะสะสมอยู่ที่ถุงดักฝุ่นในตัวเครื่อง เพราะฉะนั้นแต่ละครั้งที่คุณเปิดเครื่องใช้งาน สิ่งสกปรกต่างๆ ที่คุณดูดเข้าไปก็จะกลายเป็นอาหารชั้นดีทำหรับเจ้าเชื้อโรค ดังนั้น จึงควรถอดถุงดักฝุ่นออกมาทำความสะอาดบ้าน โดนนำออกไปถอดนอกบริเวณบ้าน เพื่อที่ฝุ่นและเชื้อโรคจะได้ไม่ฟุ้งกระจาย หรือคุณสามารถเปลี่ยนไปใช้ถุงดักฝุ่นแบบที่บุด้วยสารฆ่าเชื้อก็ได้

3. ทำความสะอาดโทรศัพท์
            บริเวณปุ่มกดของโทรศัพท์เป็นที่สะสมของเชื้อโรคได้ดีไม่แพ้ปุ่มกดชักโครกในห้องน้ำสาธารณะเลย ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์บ้าน หรือโทรศัพท์มือถือก็ตาม แต่คุณคงไม่ต้องถึงกับล้างมือด้วยน้ำยาทุกครั้งหลังการใช้งานโทรศัพท์ก็ได้ เพียงแค่เช็ดด้วยน้ำยาทำความสะอาดสักสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว

4. ทำความสะอาดแผ่นรองเมาส์หรือบริเวณที่มือสัมผัสโดน
            แผ่นรองเมาส์หรือบริเวณพื้นผิวที่คุณพักมือขณะใช้เมาส์เป็นอีกแหล่งที่สามารถนำพาเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ ทั้งเชื้อที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บคอ ตาแดง รวมถึงการติดเชื้อที่ผิวหนัง เพื่อขจัดเชื้อโรคเหล่านี้ออกไปทำความสะอาดแผ่นรองเมาส์ หรือพื้นผิวบริเวณดังกล่าวด้วยสเปรย์ความสะอาด หรือหากใครกังวลว่าแอลกอฮอลล์ในสเปรย์จะทำลายพื้นผิว ก็สามารถใช้กระดาษทิชชชู่อเนกประสงค์ชุบน้ำสบู่อ่อนๆ เช็ดทำความสะอาดได้

5. ทำความสะอาดคีย์บอร์ด
            คีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์สามารถสะสมเชื้อโรดได้มากกว่าพื้นผิวในห้องน้ำถึง 200 เท่า เนื่องจากคีย์บอร์ดมีซอกหลืบที่ทำความสะอาดยาก ใช้น้ำยาทำความสะอาดเช็ดให้ทั่วสัปดาห์ละครั้งก็สามารถลดปริมาณเชื้อโรคได้กว่าครึ่ง

            เห็นไหมคะ ว่าสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้านก็อาจกลายเป็นที่แอบซ่อนของเจ้าเชื้อโรคตัวร้ายซึ่งพร้อมเข้าจู่โจมเราทุกเมื่อที่ร่างกายเราอ่อนแอ เพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อน อย่าลืมนำคำแนะนำเหล่านี้ไปปฏิบัติเพื่อทำให้บ้านของคุณสะอาด น่าอยู่ แล้วก็เป็นบ้านที่ปลอดโรคนะคะบอลสเต็ป

สารต่างๆ ในผงซักฟอก..บอลสเต็ป

ส่วนประกอบหลักบอลสเต็ป

1. สารลดแรงตึงผิว
            เป็นพวกสารอินทรีย์ ทำหน้าที่เป็นตัวละลายไขมัน ช่วยลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้น้ำซึมเข้าไปสัมผัสกับสิ่งสกปรกต่างๆ ได้ จึงสามารถชำระล้างสิ่งสกปรกออกมาได้ทั้งในน้ำกระด้างและน้ำธรรมดา สารนี้ต้องเป็นสารเคมีประเภทมีประจุลบ (anionic) ประจุบวก (cationic) หรือไม่มีประจุ (nonionic) ประเภทใดประเภทหนึ่งหรือผสมกัน ในกรณีที่เป็นสารเคมีประเภทมีประจุลบต้องไม่เป็นแอลคิลเบนซีนซัลโฟเนตที่มี โครงสร้างแบบกิ่ง (branched alkylbenzene sulphonate) ตัวอย่างเช่น โซเดียมแอลคิลอะริลซัลโฟเนต (sodium alkyl aryl sulphonate) ส่วนสารลดแรงตึงผิวประเภทมีประจุบวก เช่น เซทิลไตรเมทิลแอมโมเนียมโบรไมด์ (cetyl trimethyl ammonium bronide) และสารลดแรงตึงผิวประเภทไม่มีประจุ เช่น เอทิลินออกไซด์ คอนเดนเซต ออฟ แอลคิลแฟตตีแอลกอฮอล์ (ethylene oxide condensate of alkylfatty alcohols) สารเหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำหน้าที่ชำระล้างสิ่งสกปรกบอลสเต็ป

2. สารลดความกระด้างของน้ำ
            เช่น โซเดียมไตรโพลีฟอสเฟต (sodium tripolyphosphare, STPP) โซเดียมไพโรฟอสเฟต (sodium pyrophosphate) เกลือของกรดไนทริโลไตรแอซีติค (nitrilotriacetic acid, NTA) เกลือของกรด เอทิลีนไดแอมีนเททระแอซีติก (ethylenediamine tetracctic acid, EDTA) กรดซิตริก และอนุพันธ์ของกรดซิตริก (citric acid and derivatives) ซีโอไลต์ (zeolite) สารใดสารหนึ่งหรือผสมกัน สารพวกนี้ไม่ช่วยให้สิ่งสกปรกหลุดออกจากเสื้อผ้า หรือจากของใช้โดยตรง แต่ทำหน้าที่เสริมประสิทธิภาพของสารลดแรงตึงผิวโดยทำให้น้ำเป็นด่างเหมาะแก่ การปฏิบัติงานของผงซักฟอก สารลดความกระด้างมีหน้าที่ช่วยแก้ความกระด้างของน้ำ เนื่องจากความกระด้างของน้ำจะรบกวนการทำงานของสารลดแรงตึงผิวที่จะดึงสิ่งสกปรกออกจากผ้า นอกจากนี้ สารลดความกระด้าง ยังช่วยควบคุมสมดุลของค่าความเป็นกรดเป็นด่างให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะและคงที่ได้ด้วยบอลสเต็ป

2.1 สารโซเดียมไตรโพลีฟอสเฟต (STPP)
            สาร STPP มีสูตรโมเลกุล Na5P3O10 วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตที่สำคัญคือ เทอร์มัล ฟอสฟอริกแอซิด และโซดาแอชเข้มข้น ปฏิกิริยาของกรดฟอสฟอริกกับโซดาแอชเข้มข้นจะให้ของผสมระหว่างโมโนและไดโซเดียม ออร์โทฟอสเฟต STPP ได้จากปฏิกิริยาดีไฮเดรชัน (dehydration) ผสมระหว่างโมโน และไดโซเดียมออร์โทฟอสเฟต ที่อุณหภูมิสูง (500oC) STPP ที่ผลิตได้ในประเทศไทย ใช้อุตสาหกรรมผลิตผงซักฟอกเป็นส่วนใหญ่ นอกนั้น STPP สามารถที่ใช้ในระบบเตรียมน้ำประปา อุตสาหกรรมกระเบื้องเซรามิก สารช่วยถนอมอาหารทะเล  อุตสาหกรรมสี เป็นต้นบอลสเต็ป

            สาร STPP ในผงซักฟอกจะลดความกระด้างโดยดึงอนุภาคแคลเซียม (Ca2+)และ แมกนีเซียม (Mg2+) ออกจากน้ำ แคลเซียมหรือแมกนีเซียมจะเข้าแทนที่โซเดียมในโมเลกุลของ STPP ซึ่งเป็นสารลดความกระด้างที่ทำหน้าที่ได้ประสิทธิผลดี แต่สามารถก่อให้เกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมได้ หลายประเทศมีความเห็นว่าฟอสเฟต อาจเป็นต้นเหตุทำให้เกิดปรากฎการณ์ยูโทรฟิเคชัน (eutrophication) ในแหล่งน้ำ ดังนั้น จึงได้ให้ความสนใจกับผงซักฟอกที่ไม่มีส่วนประกอบของฟอสเฟตโดยใช้สารอื่นทดแทนเป็นสารลดความกระด้าง

2.2 สารทดแทนสารประกอบ STPP
            สารทดแทนสารประกอบ STPP มีหลายชนิด แต่มีเพียง 5 ชนิดเท่านั้นที่ใช้อยู่ในประเทศต่างๆ ในปัจจุบัน โดยใช้ในรูปของสารลดความกระด้างโดยตรงหรือเป็นสารร่วมในการลดความกระด้าง (co-builder) ได้แก่

 ไนทริโลไตรแอซิติก
            สารไนทริโลไตรแอซิติกเป็นสารประกอบอินทรีย์ วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตได้แก่ แอมโมเนีย ฟอร์มาลดีไฮด์ กรดไฮโดรไซยานิก อนุมูลความกระด้าง (Ca2+, Mg2+) ในน้ำ จะถูกเปลี่ยนกับเกลือไตรโซเดียมของสาร NTA ทำให้ลดความกระด้างของน้ำลง ซึ่งจะทำหน้าที่ได้ดีในสภาวะน้ำที่เป็นด่าง ราคาของสาร NTA แพงกว่า STPP ประมาณร้อยละ 50 แต่ใช้ปริมาณน้อยกว่า

 ซิเทรต
            ซิเทรตเป็นเกลือของกรดซิตริก (citric acid) เป็นสารประกอบอินทรีย์ ข้อเสียของสารซิเทรตในการใช้เป็นสารลดความกระด้าง คือ ประสิทธิภาพจะลดลงที่อุณหภูมิสูง นอกจากนี้ ซิเทรตยังมีประสิทธิภาพต่ำในการลดความกระด้างที่เกิดจากอนุมูลแคลเซียม เมื่อเทียบกับความกระด้างที่เกิดจากอนุมูลแมกนีเซียม อย่างไรก็ดี ซิเทรตยังใช้เป็นสารลดความกระด้างในหลายๆ ประเทศ โดยเป็นส่วนประกอบในผงซักฟอกที่ใช้ซักล้างที่อุณหภูมิต่ำ โดยที่อเมริกามีการใช้ซิเทรตในน้ำยาซักฟอก สำหรับผงซักฟอกในประเทศไทย ไม่นิยมใช้สารประกอบนี้ เพราะมีราคาแพง ในด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีรายงานที่แสดงถึงความเป็นพิษของซิเทรตต่อสุขภาพ และเนื่องจากเป็นสารที่ย่อยสลายทางชีวภาพได้ จึงสามารถถูกกำจัดในระบบบำบัดน้ำเสียได้ (ถ้ามี)

 เกลือของกรดโพลิคาร์บอกซีลิก (polycarboxylic acid PCA)
            โพลิคาร์บอกซีเลต เป็นเกลือโพลิเมอร์ของกรด ซึ่งได้แก่ กรดอะคริลิก (acrylic acid) กรดมาลีอิก (maleic acid) สมบัติในการลดความกระด้างขึ้นอยู่กับขนาดของโพลิเมอร์ กลไกในการลดความกระด้างของ PCA เป็นแบบ electrostatic binding และ site binding ในกลไกแรก อนุมูลประจุตรงข้ามจะถูกตรึงโดยสภาพประจุไฟฟ้ารอบๆ โมเลกุลของโพลิเมอร์ ในขณะที่กลไกที่สองจะลดความกระด้างเนื่องจาก active site ของอนุมูลโพลิเมอร์รวมกับอนุมูลประจุตรงข้าม โดยเฉพาะอนุมูลที่มีขนาดใหญ่กว่า จะรวมกันได้ดีขึ้น (Ca2+ > Li+ > Na+ > K+)

            PCA ใช้ในปริมาณต่ำเมื่อเทียบกับสารทดแทนอื่นโดยให้สมบัติเท่ากัน ส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นสารลดความกระด้างร่วม ทั้งนี้เนื่องจากราคาที่สูงและย่อยสลายทางชีวภาพได้ยาก สำหรับในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความเป็นพิษนั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัด เนื่องจากมีข้อมูลการวิจัยไม่พอที่จะสรุปได้

 ฟอสฟอเนต
            ฟอสฟอเนตเป็นเกลืออยู่ในกลุ่มของ กรดฟอสฟอนิก (phosphonic acids) ซึ่งมีสารฟอสฟอรัสและไนโตรเจน มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำ มีสมบัติและราคาแพงเช่นเดียวกับ PCA ย่อยสลายยาก ปัจจุบันมักใช้เป็นสารร่วมลดความกระด้าง รายงานในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความเป็นพิษยังมีอยู่น้อยเช่นเดียวกันบอลสเต็ป

 ซีโอไลต์
            สารซีโอไลต์เป็นผลึกอนินทรีย์ของอะลูมิโนซิลิเคต ซี่งมีพื้นที่ผิวภายในสูงมากเมื่อเทียบกับพื้นที่ผิวภายนอก สังเคราะห์ขึ้นโดยเลียนแบบดินขาว (kaolin clay) ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ประกอบด้วย 1 โมลของโซเดียม 1 โมลของอะลูมินา 2 โมเลกุลของซิลิกา และ 4.5 โมลของน้ำสารซีโอไลต์ สามารถลดความกระด้างของน้ำ โดยวิธีการแลกเปลี่ยนประจุเช่นเดียวกับสาร STPP โดยที่แคลเซียม (Ca2+) และแมกนีเซียม (Mg2+) จะแลกเปลี่ยนประจุกับโซเดียมในสารทั้งสอง

            ได้มีการศึกษาทางด้านประสิทธิภาพของการลดความกระด้างในน้ำ ระหว่างซีโอไลต์และ STPP พบว่า เวลาที่ใช้ในการลดปริมาณแคลเซียมในน้ำอุณหภูมิต่ำของซีโอไลต์นานกว่า STPP ประมาณ 3 เท่า กล่าวคือ ซีโอไลต์ใช้เวลา 3 นาที ในขณะที่ STPP ใช้เวลา 1 นาที ซีโอไลต์เมื่อเทียบกับสารทดแทนอื่นๆ ในปริมาณเดียวกันจะมีความสามารถในการลดความกระด้างได้ต่ำกว่า และจะลดความกระด้างที่เกิดจากอนุมูลแคลเซียมได้ดีกว่าที่เกิดจากอนุมูลแมกนีเซียม ขนาดของซีโอไลต์มีผลต่อประสิทธิภาพการลดความกระด้างเช่นกัน ซีโอไลต์ควรมีขนาดเล็กกว่า 10 ไมโครเมตร เพื่อที่จะให้เกิดการแลกเปลี่ยนประจุได้เร็วขึ้น และลอดผ่านเส้นใยของเยื่อผิวได้ จึงจะทำให้ผงซักฟอกมีประสิทธิผลสูง สำหรับการใช้สารลดความกระด้างในประเทศไทย ได้มีการนำซีโอไลต์มาใช้ทดแทน STPP ในสูตรบางส่วน

หยุดปวดศีรษะจากความเครียด..บอลสเต็ป


อาการปวดศีรษะจากความเครียดเป็นเหมือนเงาตามตัวของคนเครียดง่าย และเมื่อมาเยือนแล้ว อาการนี้ก็มักจะอยู่กับเราเนิ่นนาน   มาบรรเทาอาการปวดศีรษะกัน...บอลสเต็ป

ดื่มน้ำ
          เคยสังเกตไหมคะว่า หากนั่งทำงานโดยไม่ได้ดื่มน้ำดื่มท่าเลยมักจะมีอาการปวดศีรษะมาก่อกวน นั่นเพราะอาการปวดศีรษะหลายอาการเกิดจากร่างกายขาดน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนั่งทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่ได้ดื่มน้ำหรือ ไม่มีอาหารตกถึงท้อง
          สิ่งแรกที่ต้องทำยามปวดศีรษะคือดื่มน้ำสัก 1-2 แก้ว จะช่วยให้อาการปวดคลายไปภายในครึ่งชั่วโมงบอลสเต็ป

จิบชาสูตรจีน & อินเดีย
          ลำดับต่อไป ลองชงชาสูตรแก้ปวดศีรษะของอินเดียที่ชาวภารตะคิดค้นขึ้นจากภูมิปัญญามา นานกว่า 1,000 ปี ชาสูตรนี้มีส่วนผสม 3 อย่าง ได้แก่ น้ำมะนาว ขิง และน้ำผึ้ง
          วิธีทำ ฝานขิงเป็นชิ้นบางๆ 1 ชิ้น ใส่ลงในน้ำร้อน 1 แก้ว เติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ใส่น้ำมะนาวตามลงไป 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน จิบอุ่นๆบอลสเต็ป

          หรือชาวจีนบอกว่า ความเครียดทำให้ระบบขับถ่ายแปรปรวนและส่งผลให้ปวดศีรษะในที่สุด จึงแนะนำให้ชงชาเปปเปอร์มินต์ดื่ม เพราะชาเปปเปอร์มินต์มีประโยชน์สองต่อ คือ ช่วยลดอาการปวดศีรษะและทำให้สบายท้องขึ้นด้วยบอลสเต็ป

กดจุดเอ็นร้อยหวาย
          การกดจุดนี้เป็นการลดอาการปวดศีรษะจากความเครียดโดยเฉพาะ โดยช่วยให้เลือดไหลเวียนจากไหล่ไปต้นคอและศีรษะสะดวกขึ้น ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ ช่วยให้การหดตัวและขยายตัวของเส้นเลือดเป็นปกติ
          วิธีทำ ใช้นิ้วหัวแม่มือแตะที่จุดเอ็นร้อยหวายด้านนอก อีก 4 นิ้วที่เหลือแตะด้านในข้อเท้า กดแรงพอรู้สึกสบาย กดค้างไว้ 5 วินาที แล้วค่อยๆ ปล่อยมือ 5 วินาที ทำซ้ำไปมาข้างละ 5 ครั้งบอลสเต็ป

คิดเลขในใจ ... ห่างไกลสมองเสื่อม..บอลสเต็ป


งานวิจัยในปัจจุบัน พบว่า เซลล์ประสาทจะถูกผลิตสร้างขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ และจะเสื่อมสภาพลง ถ้าไม่มีการใช้งานอย่างเป็นประจำ แต่ถ้าเราทำกิจกรรมใดๆ ซ้ำๆ บ่อยๆ ทำให้เซลล์สมองส่วนนั้นถูกกระตุ้นอยู่ตลอด ทำให้เซลล์สมองส่วนนั้นแข็งแรง และไม่เสื่อมสภาพลงไปง่ายๆบอลสเต็ป

             นพ.สุวินัย บุษราคัมวงษ์ แพทย์ด้านอายุรกรรมสมอง สถานพยาบาลกล้วยน้ำไท2 เปิดเผยว่า "การคิดเลขในใจสามารถช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม เนื่องจากทำให้สมองได้ออกกำลังและเพิ่มการสื่อสัญญาณประสาทในสมองได้"

สถิติชวนสยองบอลสเต็ป
             คุณอาจเคยได้ยินว่า ผู้สูงวัยมักเป็นโรคสมองเสื่อม แต่รู้หรือไม่ว่า โรคดังกล่าว อาจเกิดขึ้นได้ในคนทุกวัย แต่จะพบบ่อยในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยยังไม่มีการสำรวจอย่างเป็นทางการว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคนี้มากน้อย เพียงใด แต่คาดว่าน่าจะมีผู้ป่วยอยู่ประมาณ 200,000 - 300,000 คน

             ส่วนงานวิจัยจากฝั่งตะวันตกก็พบว่า คนที่มีอายุ 65 ปี จะป่วยด้วยโรคสมองเสื่อมราว 1 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในทุกๆ 5 ปี ที่อายุเพิ่มขึ้น โดยผู้ที่มีอายุ 86 ปีขึ้นไป พบว่า ป่วยด้วยโรคสมองเสื่อมมากถึง 32 เปอร์เซ็นต์

อาการของผู้ป่วยสมองเสื่อม
             สำหรับอาการของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมคือ จะสูญเสียเซลล์ประสาทเร็วกว่าปกติในระดับที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิต ทั้งเรื่องความจำ การควบคุมอารมณ์ ที่ไม่สามารถแยกถูกผิด ความฉลาด และการสั่งงานของสมอง เช่น การเปิดแก๊ซหุงต้มทิ้งไว้เพราะลืม หรือเห็นแก๊สเปิดทิ้งไว้ก็ไม่ปิด เพราะนึกไม่ออกว่าจะปิดอย่างไร และไม่คิดว่าจะเกิดอันตรายขึ้นได้บอลสเต็ป

             ความสามารถของผู้ป่วยจะลดลง บางรายอาจไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ลืมความจำที่เคยมีก่อนในช่วงวัยรุ่น มีปัญหาเรื่องจำบ้านไม่ได้ เช่น หาห้องน้ำหรือห้องนอนไม่พบ ไม่รู้ว่าตรงไหนลื่นหรือไม่ลื่น บางครั้งอาจใช้อุปกรณ์ในห้องน้ำไม่เป็น และไม่รู้ว่าสิ่งใดอันตรายหรือไม่

คิดเลขในใจกระตุ้นการออกกำลังกายของสมอง
             น้อยครั้งนักที่เรามักจะเห็นพ่อค้าแม่ค้าสูงอายุคิดค่าอาหาร และเงินทอนได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งวิธีในการป้องกันและรักษาโรคสมองเสื่อมแบบไม่ต้องเสีย เงินหลายแสน ที่คุณก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการคิดเลขในใจทุกวัน วันละหลายๆ ครั้ง ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการออกกำลังกายของสมอง (Brain Exercise) กระตุ้นเซลล์สมองให้สร้างแขนงประสาทไปเชื่อมต่อกับเซลล์สมองส่วนอื่นๆ เพิ่มเส้นใยประสาทของเซลล์ประสาท (Neurons) ให้มีการเชื่อมโยงถึงกันมากขึ้น และยังอาจเพิ่มปริมาณสารเคมีที่บรรจุอยู่ประสาทให้เพิ่มมากขึ้น ทำให้สามารถใช้สมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บอลสเต็ป
ฝึกคิดเลขในใจ
             ลองคิดค่าของที่ซื้อเวลาไปจ่ายตลาดคิดเงินทอน คิดค่าอาหาร และเงินทอนเวลาไปทานข้าวนอกบ้าน คิดรายรับในแต่ละเดือน คิดค่าใช้จ่ายในบ้าน คิดตัวเลขรายรับ รายจ่ายเงินในบัญชีธนาคารแทนการกดเครื่องคิดเลข ซึ่งการคิดคำนวณเหล่านี้ต้องใช้ทั้งการบวก ลบ คูณ และหารในบางครั้ง

             ช่วงแรกควรเริ่มจากเลข 2 หลักก่อนโดยไม่ต้องใช้นิ้วมือมาช่วยนับ หลังจากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มจำนวน เมื่อเริ่มคล่องขึ้นแล้วก็เริ่มลบตัวเลขแบบง่ายๆ ส่วนการคูณควรเริ่มจากการคูณเลขง่ายๆ เช่น เลข 1-12 ก่อนเป็นอันดับแรก

             นอกจากการออกกำลังกายสมองอย่างเป็นประจำแล้ว การใช้สารสีเหลืองสกัดจากเหง้าขมิ้นชัน หรือเคอร์คูมินอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ต้านการอักเสบ บำรุงรักษาตับ ป้องกันมะเร็ง ก็มีฤทธิ์ในการป้องกันสมองเสื่อม ซึ่งการวิจัยในสัตว์ทดลองพบว่าเคอร์คูมินอยด์ ลดจำนวนกลุ่มของสารซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคสมองเสื่อม นอกจากนั้นเคอร์คูมินอยด์ยังช่วยลดการอักเสบ ของเนื้อเยื่อสมองและลดความเสียหาย เนื่องจากการเกิดอนุมูลอิสระของเซลล์ในสมองได้อีกด้วยบอลสเต็ป

แนะวิธีดูแลตัวเองช่วงหน้าฝน..บอลสเต็ป

เมื่อถึงฤดูฝนทีไรปัญหาเรื่องเชื้อโรค เชื้อราต่างๆ ก็พากันรุมทำร้ายผิวหนังสวยๆ ของเราจนสร้างความรำคาญใจให้ทุกที วันนี้เคล็ดลับสุขภาพดีมีวิธีดูแลตัวเองในช่วงหน้าฝนตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า มาฝากกันครบเซตบอลสเต็ป



บอลสเต็ป

            แพทย์หญิงกานต์ชนก พานิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง กานต์ชนกคลินิก ให้ความรู้ในการดูแลความสวยงามเริ่มจากศีรษะและเส้นผมก่อนว่า หน้าฝนนี้หากผมเปียกจะทำให้เชื้อโรคต่างๆ ที่ตามมากับน้ำฝนติดอยู่ที่เส้นผม นอกจากการเช็ดผมที่เปียกให้แห้งแล้วยังไม่พอ เราต้องสระผมทุกครั้งด้วยแชมพูที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราด้วย เพื่อป้องกันการเกิดรังแคและห้ามเข้านอนในขณะที่ผมยังไม่แห้งสนิท เพราะจะก่อให้เกิดเชื้อราด้วยเช่นกันบอลสเต็ป

            ต่อมาเป็นลำตัวและเสื้อผ้าหากเปียกฝน ควรรีบทำให้แห้งหรือเปลี่ยนใหม่จะดีมาก เพราะเมื่อเสื้อผ้าเปียกบวกกับฝุ่นละอองตามอากาศที่มาเกาะ ถ้าอยู่บนตัวเรานานๆ จะเป็นเชื้อราและสาเหตุของโรคกลาก เกลื้อนตามมา เมื่อเป็นแล้วจะหายยากมาก ดังนั้นควรรีบทำตัวให้แห้งและทำความสะอาดร่างกายโดยเร็ว และควรชโลมผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อบำรุงผิวให้เนียนนุ่มอยู่เสมอ
บอลสเต็ป
            สำหรับเท้าและเล็บคงไม่มีใครชอบกลิ่นเหม็นอับของเท้าอย่างแน่นอน โดยเฉพาะหน้าฝน เราต้องย่ำน้ำฝน น้ำนองพื้นอยู่แล้ว ทำให้รองเท้า ถุงเท้า เปียกชื้นและเกิดการหมักหมมขึ้น ทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณง่ามนิ้วเท้า วิธีง่ายๆ ในการป้องกันเชื้อราและกลิ่นอับ คือฟอกสบู่และล้างทำความสะอาด เช็ดเท้าให้แห้งและปล่อยไว้ให้โดน อากาศอย่างน้อยสัก 2 ชั่วโมง ก่อนจะใส่ถุงเท้าและรองเท้าคู่ใหม่ออกไปข้างนอกอีกครั้ง





            นอกจากนี้ เราควรรักษาความสะอาดตามร่างกายและทำให้แห้งอยู่เสมอ เนื่องจากอากาศที่ร้อนผสมความชื้น เหงื่อและไขมันบริเวณรูขุมขนจะเกิดมากกว่าช่วงหน้าหนาว การหมักหมมของเชื้อโรค ฝุ่นละอองจะทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้เกิดสิวอักเสบง่ายขึ้น ดังนั้นช่วงหน้าฝนนี้เราจึงต้องหมั่นดูแลรักษาผิวและทาครีมป้องกันสิวเพื่อให้ผิวพรรณสะอาดปราศจากสิวและโรคผิวหนังด้วย

            เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับวิธีการดูแลตัวเองในช่วงหน้าฝนตั้งแต่ศีรษะจด ปลายเท้าแบบง่ายๆ เพื่อหลีกหนีโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน อาการคัน และกลิ่นเหม็นอับต่างๆ ในร่างกาย เพื่อตัดความรำคาญเสริมความมั่นใจให้เราได้ไม่มากก็น้อยเลยใช่ไหมคะ ที่สำคัญยังทำให้เรามีบุคลิกภาพที่ดีและมีสุขภาพร่างกายที่สะอาดปราศจากเชื้อโรคด้วย อย่าลืมลองนำไปปฏิบัติตามดูนะคะบอลสเต็ป

ทำยังไงดีเมื่อเด็กร้องอาละวาดไปแล้ว?..บอลสเต็ป

ทำยังไงดีเมื่อเด็กร้องอาละวาดไปแล้ว?บอลสเต็ป
             เบี่ยงเบนความสนใจของเด็ก เช่น กิจกรรมใหม่ หนังสือ ของเล่น พยายามใช้คำพูดที่ละมุนละม่อม “ อุ้ย แม่ได้ยินใครกดกริ่งที่ประตูแน่ะ ” การทำหน้าตลกๆ หรือทำให้เป็นเรื่องขบขันก็อาจช่วยได้ บางครั้งควรบอกเด็กด้วยว่าให้ไปทำอะไรแทน
             ใจเย็น ถ้าพ่อแม่ก็โมโห จะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง จำไว้ว่ายิ่งให้ความสนใจพฤติกรรมนี้มากเท่าไร มันก็จะยิ่งเกิดขึ้นบ่อยเท่านั้น
             การแสดงออกว่าโกรธที่ไม่รุนแรง เช่น ร้องไห้ กรีดร้อง เตะขา อาจเพิกเฉยได้ โดยยืนดูใกล้ๆหรือจับตัวเด็กไว้ โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรจนกว่าเด็กจะสงบ ถ้าคุณคิดว่าตัวเองไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ให้เดินออกมาจากห้องนั้นก่อน ลองรอประมาณ 1-2 นาที ก่อนจะเดินกลับเข้าไปหรือจนกว่าลูกจะหยุดร้อง จากนั้นพยายามช่วยให้เขาไปสนใจสิ่งอื่นแทน ถ้าเด็กโตพอที่จะเข้าใจก็ลองพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและวิธีแก้ไขในครั้งต่อไปบอลสเต็ป
             อย่างไรก็ตามการร้องอาละวาดที่ไม่สามารถเพิกเฉยได้ ได้แก่ ทำร้ายตัวเองหรือคนอื่น ทำร้ายข้าวของ กรีดร้องหรือตะโกนเป็นเวลานานมากๆ
             การใช้ Time-out หรือ การขอเวลานอก คือการนำเด็กออกจากสถานที่เกิดเหตุ พาไปที่ที่เขาจะควบคุมตัวเองได้ ใช้สำหรับเด็กที่โตพอจะเข้าใจเหตุผล โดยให้เวลานอก 1 นาทีต่ออายุเป็นปี เช่น อายุ 4 ปี ให้ทำนาน 4 นาที เป็นต้น
             ไม่ควรทำโทษเด็กขณะร้องอาละวาดเพราะอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เด็กเก็บความ คับข้องใจไว้และมีปัญหาทางอารมณ์ต่อไป ควรตอบสนองกับพฤติกรรมร้องอาละวาดอย่างสงบและเข้าใจให้มากที่สุด เมื่อเด็กโตขึ้นเขาก็จะเรียนรู้วิธีจัดการกับอารมณ์ของตนเอง จำไว้ว่าเป็นเรื่องปกติของเด็กที่จะทดสอบกฎของพ่อแม่ว่าจะเอาจริงหรือไม่
              พยายามอย่าใช้รางวัลเพื่อให้เด็กหยุดพฤติกรรม เพราะจะทำให้เด็กคิดว่าวิธีนี้ทำให้ตนเองได้ในสิ่งที่ต้องการ
             เราควรมีความเสมอต้นเสมอปลาย อย่าไปแสดงท่าทางลังเลกับคำสั่งของเราเอง เพราะจะยิ่งทำให้เด็กสับสนว่าอะไรทำได้หรือทำไม่ได้บอลสเต็ป
             ก่อนจะตั้งกฎอะไร พ่อแม่ต้องมั่นใจด้วยว่าตนเองมีเวลาในแต่ละวันที่ได้สนุกสนานกับลูก และไม่ควรตั้งกฎไว้มากจนเกินไป ทุกคนในบ้านก็ต้องหนักแน่นกับกฎนั้น ปฏิบัติต่อเด็กให้เหมือนกัน

  เมื่อไรการร้องอาละวาดนั้นน่าเป็นห่วง?
            โดยทั่วไปเด็กจะ ลดการร้องอาละวาดลงเองเมื่อเข้าขวบปีที่ 4 โดยที่พฤติกรรมอื่นๆก็ดุสมวัยดี แต่ถ้าการร้องอาละวาดนั้นดูรุนแรงมากหรือเกิดขึ้นถี่เกินไปอาจเป็นสัญญาณ ต้นๆของภาวะปัญหาทางอารมณ์

  ปรึกษากุมารแพทย์เมื่อไรเพื่ออะไร?
            แนะนำว่า ควรปรึกษา เมื่อเด็กทำร้ายตนเองหรือคนอื่นขณะที่กำลังร้องอาละวาด หรือแย่ลงหลังอายุ 4 ปี เพื่อดูว่าเด็กมีปัญหาทางกายภาพหรือจิตใจแอบแฝงอยู่หรือไม่บอลสเต็ป
            การร้องอาละวาด เป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการที่ปกติของเด็ก ไม่ง่ายนักที่จะจัดการ แต่การที่ผู้เลี้ยงดูให้ความรัก ความเข้าใจแก่เด็ก ก็จะสามารถช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพต่อไปได้แน่นอน
บอลสเต็ป

..ทำไมเด็กต้องอาละวาด?..บอลสเต็ป

การร้องอาละวาด ( Temper Tamtrums ) : ส่วนหนึ่งของ พัฒนาการที่พ่อแม่ต้องเข้าใจบอลสเต็ป

            เด็กในช่วงอายุ 1-3 ปี หลายท่านคงเคยได้ยินคำเรียกเด็กวัยนี้ว่า “วัยต่อต้าน” เพราะเมื่อเด็กวัยนี้รู้สึกคับข้องใจ โกรธ หรือผิดหวัง พวกเขามักแสดงออกโดยการร้องไห้ แผดเสียง หรือกระทืบเท้าไปมา ซึ่งบางครั้งทำให้ผู้ปกครองรู้สึกโกรธ หรืออับอายได้ อย่างไรก็ตาม การร้องอาละวาดเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการเด็กเพื่อที่จะเรียนรู้การควบคุมตนเอง และในความเป็นจริงเด็กเกือบทุกคนต้องมีภาวะนี้บ้างไม่มากก็น้อย

            ข่าวดี ก็คือ อาการร้องอาละวาดมักหยุดไปเองหลังอายุ 4 ปี

  ทำไมเด็กต้องร้องอาละวาด?
            เด็กวัยนี้เริ่ม แสดงความเป็นตัวของตัวเอง อยากรู้อยากเห็นในสิ่งแวดล้อมซึ่งแปลกใหม่บนโลกใบนี้ เด็กมีความต้องการที่จะควบคุมทุกอย่าง ต้องการเป็นอิสระและพยายามที่จะทำอะไรที่เกินความสามารถของตนเอง ต้องการจะตัดสินใจเองและไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้ดีพอ ยิ่งถ้าเขาเหนื่อย หิว หงุดหงิดหรือกลัวด้วยแล้ว เขาก็ยังไม่สามารถที่จะจัดการตัวเองได้ ดังนั้นการเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเองเป็นเรื่องยากสำหรับเขา  การร้องอาละวาด จึงเป็นหนทางในการปลดปล่อยอารมณ์ของเด็ก

  สาเหตุที่อาจทำให้เด็กมีพฤติกรรมเช่นนั้น ได้แก่บอลสเต็ป
             ข้อจำกัดเรื่องภาษา คือ ไม่เข้าใจสิ่งที่พ่อแม่พูดหรือถามได้ทั้งหมด เด็กจึงสับสน เครียดเมื่อใครๆก็ไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่ตนเองต้องการ ไม่รู้จะบอกความรู้สึกของตนเองอย่างไร (หลังอายุ 3 ปีเด็กส่วนใหญ่สามารถบอกความรู้สึกได้ การร้องอาละวาดจึงค่อยๆลดลง ส่วนเด็กที่มีพัฒนาการทางภาษาช้า การร้องอาละวาดจึงอาจจะยังคงอยู่นานกว่า)
             ข้อจำกัดเรื่องพัฒนาการด้านอื่นๆ คือ ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองทำให้หมดกำลังใจได้ง่าย ไม่สามารถทำในสิ่งที่ตนเองจินตนาการได้ เช่น เดิน วิ่ง ปีนป่าย วาดรูปหรือเล่นของเล่นที่ยากกว่าวัย
             ข้อจำกัดเรื่องสังคม เป็นการแสดงปฏิกิริยาต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในบ้าน อิจฉาเพื่อนหรือพี่น้อง หรือต้องการได้ในสิ่งที่เด็กคนอื่นมี หรือเรียกร้องความสนใจ
             ข้อจำกัดเรื่องทางกายภาพ คือ เด็กที่มีอาการเจ็บป่วยอยู่ หิว / เหนื่อยหรือนอนไม่พอ / กังวลหรือไม่สบายตัว

  จะป้องกันการร้องอาละวาดได้อย่างไร?
            พ่อแม่อาจจะไม่สามารถป้องกันการร้องอาละวาดได้ทุกครั้ง แต่สามารถลดโอกาสที่จะเกิดได้ โดย...บอลสเต็ป

             พยายามกระตุ้นให้เด็กพูด บอกความรู้สึก เช่น “หนูทนไม่ไหวแล้วนะ” เข้าใจความรู้สึกของเขาและแนะนำว่าควร พูดยังไง
             ตั้งกฎที่เหมาะสมในบ้านและอย่าไปคาดหวังว่าเด็กต้องทำได้สมบูรณ์ ให้เหตุผลง่ายๆว่าทำไมต้องมีกฎและพยายามอย่าไปเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ
             พยายามทำกิจวัตรประจำวันให้เหมือนเดิมทุกวันเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้เด็กคาดเดาต่อไปได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
             หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจกระตุ้นให้เด็กเกิดร้องอาละวาด เช่นการเล่นของเล่นที่ยากกว่าวัย


            หลีกเลี่ยงการไป นอกสถานที่ที่กินเวลานานๆและต้องอยู่อย่างเป็นระเบียบ ถ้าต้องเดินทางไปไหนก็ให้พกหนังสือเล่มโปรดหรือของเล่นที่ชอบบอลสเต็ป

             เตรียมของว่างที่มีประโยชน์เผื่อเวลาลูกหิวและแน่ใจว่าลูกได้พักผ่อนเต็มที่แล้ว ก่อนออกเดินทาง
             เบี่ยงเบนความสนใจของเด็กจากกิจกรรมที่อาจนำไปสู่การร้องอาละวาด แนะนำกิจกรรมที่ต่างออกไป ถ้าเป็นไปได้พ่อแม่อาจต้องทำอะไรขบขันเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายขึ้น บางครั้งแค่เปลี่ยนสถานที่ก็ได้
             พยายามเลือกใช้คำอื่นแทนคำว่า “ไม่, อย่า” เพราะถ้าใช้บ่อยๆ เด็กก็จะหงุดหงิดได้ง่าย เปิดโอกาสให้เด็ก ได้เลือกเองบ้างบอลสเต็ป
             เป็นตัวอย่างที่ดีในการจัดการกับอารมณ์

ชีวิตนี้อย่าให้ขาด... น้ำ..บอลสเต็ป

น้ำในร่างกายแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ น้ำที่ประกอบอยู่ในเซลล์ 60 เปอร์เซ็นต์ ที่อยู่นอกเซลล์ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์บอลสเต็ป

            และที่อยู่ในเนื้อเยื่อหรือเลือดอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำให้มนุษย์ต้องการน้ำตกวันละประมาณ 2-3 ลิตร โดยจะมีการขับน้ำออกจากร่างกายในลักษณะของปัสสาวะ เหงื่อ อุจจาระ และลมหายใจ ซึ่งจะขับออกทางปัสสาวะวันละประมาณครึ่งลิตร ถึง 2.3 ลิตรบอลสเต็ป

น้ำทำหน้าที่อะไร?
            หน้าที่ของน้ำในร่างกายนั้นมีมากมาย ทั้งช่วยย่อยอาหาร ละลายสารอาหารและออกซิเจน เพื่อขนส่งให้เซลล์ต่างๆ นับล้านๆ เซลล์ทั่วร่างกาย ช่วยให้หัวใจทำงานได้ปกติ ใบหน้าชุ่มชื้นดูมีเลือดฝาด ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงร่างกาย ละลายสารพิษเพื่อขับออกจากร่างกาย ทำให้ผิวพรรณสดใสไม่แห้งกร้าน ทำให้ข้อเคลื่อนไหวได้สะดวก

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าขาดน้ำ
            ถ้าร่างกายขาดน้ำ หรือดื่มน้ำไม่เพียงพอส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เพราะร่างกายต้องดึงน้ำจากส่วนต่างๆ มาใช้โดยที่เราไม่รู้ตัว ส่งผลให้เลือดข้น ระบบไหลเวียนของเหลวในร่างกายผิดปกติ ผิวพรรณหยาบกร้าน ไตทำงานหนัก ส่งผลให้ปวดศีรษะ เป็นตะคริว ความดันสูง เกิดอาการบวมน้ำ ฯลฯ
บอลสเต็ป
            การดื่มน้ำอย่างเพียงพอในแต่ละวันจะช่วยให้ไตทำงานได้ดี และช่วยให้ตับกำจัดไขมันได้อย่างเต็มที่ โดยไต คืออวัยวะที่หลายคนไม่ค่อยนึกถึง แต่มันกลับต้องทำหน้าที่สำคัญในการกำจัดสารพิษต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเกิดจากกระบวนการทำงานภายในเซลล์ เช่น ยูเรีย และกรดยูริก ดูดสารอาหารที่มีประโยชน์กลับคืนเข้าสู่ร่างกาย เช่น กลูโคส กรดอะมิโน ฯลฯ

            นอกจากนี้ ไตยังช่วยควบคุมระดับความเป็นกรด ด่าง ของของเหลวในร่างกาย สามารถกำจัดส่วนเกินของแร่ธาตุบางตัว เช่น โพแทสเซียมไอออน, โซเดียมไอออน, รวมทั้งสังเคราะห์กลูโคสจากกรดอะมิโนหรือจากสารชนิดอื่นๆ โดยกำจัดของเสียเหล่านี้ออกทางปัสสาวะ และยังทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนอีรีโทรโปรอีติน (กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง) และวิตามินดีที่มีหน้าที่รับแคลเซียมในเลือดเพื่อช่วงป้องกันโรคกระดูกเสื่อม

            ดังนั้น ถ้าไตไม่สามารถทำงานได้ดีถ้าร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ อาจส่งผลทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้น และเผาผลาญไขมันได้น้อยลง ทำให้ร่างกายมีการสะสมไขมันมากขึ้นอีกด้วย (หน้าที่หลักของตับคือช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกายให้เกิดเป็นพลังงาน)

ประโยชน์จากน้ำบอลสเต็ป
            น้ำสามารถให้ผิวพรรณดูอ่อน นุ่ม สดใส ชุ่มชื้น ไม่เหี่ยวย่น ดวงตาดูสดใส เส้นผมดูเงางามมีประกาย ช่วยลดกลิ่นปาก ช่วยลดปัญหาท้องผูก และที่สำคัณน้ำยังช่วยชะลอความแก่ เนื่องจากถ้าเซลล์ในร่างกายขาดน้ำเรื้อรัง และมีอนุมูลอิสระจะทำให้เซลล์เสื่อมสภาพลงทำให้ดูแก่ขึ้น น้ำช่วยลดอาการปวดตามข้อ ปวดหลัง ช่วยลดความดันโลหิต เร่งการขับสารพิษ และของเสียออกจากร่างกาย

            นอกจากนี้ น้ำยังช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น เพราะ 85 เปอร์เซ็นต์ ของสมองมีองค์ประกอบเป็นน้ำ การดื่มน้ำทีให้เพียงพอจะช่วยให้สมองทำงานได้ดีและเฉียบแหลม





น้ำแต่ละชนิด
            ในโลกของเรามีน้ำอยู่มากมาย ซึ่งน้ำแต่ละชนิด ก็มีประโยชน์และที่มาแตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนจะต้องดื่มหรือใช้น้ำ คุณก็ควรทำความรู้จักกับน้ำแต่ละชนิดเสียซะก่อน

            น้ำประปา ในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อังกฤษ ฯลฯ การดื่มน้ำประปาถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนน้ำประปาในประเทศไทยก็สามารถดื่มได้อย่างปลอดภัยเช่นกัน เพราะผ่านการผลิตและควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก

            หากต้องการดื่มน้ำประปา ท่อน้ำในบ้านควรจะเป็นท่อเหล็กที่อายุการใช้งานไม่นานเกิน 5 ปี หรือท่อพลาสติก เนื่องจากท่อเหล่านี้จะยังไม่เป็นสนิม แต่ถ้าต้องการลดกลิ่นคลอรีนก็สามารถนำมาต้ม การต้มนอกจากจะลดกลิ่นดังกล่าวแล้วยังช่วยฆ่าเชื้อโรค และลดความกระด้างของน้ำลง

            น้ำดื่มบรรจุขวดที่ขายอยู่ตามท้องตลาด มักมาจากแหล่งน้ำบาดาล และน้ำประปา โดยผ่านการกรองเพื่อดูดกลิ่น และผ่านเรซิน เพื่อลดความกระด้างของน้ำ โดยมีขั้นตอนสุดท้ายคือการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ด้วยการผ่านรังสีอุลต้าไวโอเลต

สำหรับน้ำธรรมชาติก็มีจากหลากหลายแหล่งที่มา เช่น น้ำใต้ดิน น้ำพุ น้ำแร่ ฯลฯ ซึ่งน้ำธรรมชาติที่นำมาดื่มกันนั้นมี
            1. น้ำแร่ชนิดเติมคาร์บอเนตคือ น้ำแร่ที่มีการเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงไป
            2. น้ำแร่ชนิดไม่มีคาร์บอเนตคือ น้ำแร่ที่ไม่มีก๊าซคาร์บอนไดมากจนทำให้เกลือไฮโดรเจนคาร์บอเนตที่อยู่ในน้ำละละลาย
            3. น้ำแร่ชนิดขจัดคาร์บอเนตคือ น้ำแร่ที่มีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า ที่มีอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติหลังจากการบรรจุขวด
            4. น้ำแร่ชนิดเติมคาร์บอนไดออกไซต์จากแหล่งกำเนิดคือ น้ำแร่ที่มีการเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมีปริมาณก๊าซมากกว่าแหล่งธรรมชาติ

            น้ำแร่ที่ถูกต้องตามมาตรฐานอุตสาหกรรมจะต้องใส ไม่มีตะกอน ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ไม่มีจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค มีแร่ธาตุไม่เกินที่กำหนดไว้ในมาตรฐาน มอก.2208 - 2547 ซึ่งการจะดื่มน้ำแร่ก็ควรพิจารณาสภาพความเป็นกรด ด่าง มีแร่ธาตุที่เหมาะสมกับร่างกายเราหรือไม่ เช่น เด็กเล็กไม่ควรดื่มน้ำแร่ที่มีปริมาณธาตุเหล็กสูงเกิน 5 มิลลิกรัม / 1 ลูกบาศก์เดซิเมตร การดื่มน้ำที่มีความเป็นกรด ด่างมากเกินไปเป็นประจำอาจทำให้ร่างกายเสียสมดุล ปริมาณโซเดียมคลอไรด์ที่สูงเกิน 1,000 มิลลิกรัม / 1 ลูกบาศก์เดซิเมตร ไม่เหมาะกับผู้มีความดันเลือดสูง หรือผู้ป่วยโรคไต สตรีมีครรภ์ และเด็กไม่ควรดื่มน้ำที่มีปริมาณซัลเฟตสูงเกิน 600 มิลลิกรัม / 1 ลูกบาศก์เซ็นติเมตร เนื่องจากอาจทำให้ถ่ายท้อง

มาดื่มน้ำกันเถอะ
            การดื่มน้ำ ควรดื่มวันละประมาณ 2-3 ลิตร โดยตอนเช้าควรดื่มน้ำอุ่นทันที 2 แก้ว เพื่อช่วยให้ถ่ายอุจจาระได้ดี ในระหว่างวันควรดื่มน้ำทันทีเมื่อเริ่มรู้สึกคอแห้ง และไม่ควรดื่มน้ำเกินครึ่งแก้วก่อนรับประทานอาหาร 15 นาที และภายใน 40 นาทีหลังมื้ออาหาร เนื่องจากทำให้น้ำย่อยเจือจางลง ส่งผลต่อระบบการย่อยอาหาร

            ทั้งนี้ ควรดื่มน้ำทีละนิดระหว่างวัน จิบครั้งละ 2-3 อึก แต่จิบบ่อยครั้งไปตลอดทั้งวัน การดื่มน้ำครั้งละมากๆ ทำให้ร่างกายดูดซึมไม่ทัน และขับออกมาเป็นปัสสาวะ ดังนั้นถึงจะดื่มน้ำเป็นปริมาณมากก็ยังรู้สึกหิวน้ำบอลสเต็ป

สาบเสือ ช่วยห้ามเลือด..บอลสเต็ป

สาบเสือบอลสเต็ป วัชพืชที่พบขึ้นง่ายตามที่ทั่วไป เป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นเฉพาะ มีกลิ่นแรงจนบางพื้นที่เรียกหญ้าเหม็น สาเหตุที่ได้ชื่อว่า สาบเสือ เพราะดอกของมันไม่มีกลิ่นหอม แต่กลับมีกลิ่นสาบ คนโบราณเวลาหนีสัตว์ร้าย จะใช้วิธีหนีรอดโดยการเข้าไปอยู่ในดงของต้นสาบเสือ กลิ่นของสาบเสือจะทำให้เพราะสัตว์อื่นไม่ได้กลิ่นคน จะได้กลิ่นของสาบเสือแทน  สรรพคุณ ทั้งต้น จะมีกลิ่นหอมแรงใช้เป็นยาฆ่าแมลง




บอลสเต็ป
             สมัยโบราณมีการใช้สาบเสือในการห้ามเลือด โดยใช้ใบสดขยี้ปิดปากแผล และมีผลการวิจัยในสัตว์ทดลองยืนยันว่าสามารถทำให้เลือดหยุดไหลได้เร็วขึ้น โดยพบว่าแคลเซียมที่มีอยู่ในใบสาบเสือเป็นสารสำคัญที่ทำให้เลือดแข็งตัว

             นอกจากนี้ จากจุลสารข้อมูลสมุนไพร ของมหาวิทยาลัยมหิดล ฉบับประจำเดือนเมษายน 2554 มีการศึกษาผลของใบสาบเสือ ต่อการห้ามเลือดในผู้ป่วยที่มีบาดแผลฉีกขาดของเนื้อเยื่อและหลอดเลือด โดยมีการแบ่งกลุ่มผู้ป่วยออกเป็น 3  กลุ่ม กลุ่มที่ 1คือ กลุ่มที่ใช้ใบสาบเสือแบบสดห้ามเลือด ก่อนถึงสถานบริการ ซึ่งมีบาดแผลฉีกขาดของเนื้อเยื่อชั้นความลึกใต้ผิวหนัง จำนวน 8 ราย กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่ใช้ก๊อซ อย่างเดียวในการห้ามเลือด ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่มีบาดแหลฉีกขาดที่ความลึกชั้นใต้ผิวหนัง จำนวน 15 ราย แผลฉีกขาดในชั้นหนังแท้ จำนวน 3 ราย มีเลือดไหลไม่หยุดหลังแผลเย็บ จำนวน 3 ราย และแผลในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะสุดท้ายที่ห้ามเลือดไม่หยุด จำนวน 1 ราย และกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มผู้ป่วยเดียวกันกับกลุ่มที่ใช้ก๊อซห้ามเลือด แต่จะใช้ใบสาบเสือแบบแห้งห้ามเลือดแทน โดยจะนำใบอ่อน และใบแก่มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำมาตากแดดให้แห้ง จนไม่มีความชื้น นำมาห่อด้วยผ้าก๊อซบางๆ จากนั้นนึ่งด้วยเครื่องอบไอน้ำบอลสเต็ป




บอลสเต็ป
             ผลการศึกษาพบว่า ใบสาบเสือแบบสดและแบบแห้ง สามารถห้ามเลือดในกลุ่มผู้ป่วยได้ (10-15 นาที) และเร็วกว่าใช้ก๊อซอย่างเดียว ที่ต้องใช้เวลา 30 นาที - 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ การใช้ใบสาบเสือแบบแห้งยังไม่พบภาวะแทรกซ้อนจากอัตราการติดเชื้อ สรุปได้ว่า ใบสาบเสือแห้งมีผลห้ามเลือดได้เหมือนแบบสด และอัตราติดเชื้อเท่ากับศูนย์บอลสเต็ป

เวลาทางธรณีวิทยา..บอลสเต็ป

มหายุคฟาเนอโรโซอิก (Phanerozoic aeon) บอลสเต็ป
           อยู่ในช่วง 0.5 ล้านปีจนถึงปัจจุบัน เป็นช่วงเวลาที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่จำนวนมากทั้งในมหาสมุทรและบนแผ่นดิน  มหายุคฟาเนอโรโซอิกถูกแบ่งย่อยออกเป็น 3 ยุค ดังนี้

            ยุคพาเลโอโซอิก (Palaeozoic era) อยู่ในช่วง 545 – 245 ล้านปีก่อน เป็นยุคเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตทั้งในมหาสมุทร และบนบก
            ยุคเมโสโซอิก (Mesozoic era) อยู่ในช่วง 245 – 65 ล้านปีก่อน  เป็นยุคของสัตว์เลื้อยคลานจำพวกไดโนเสาร์
            ยุคเซโนโซอิก (Cenozoic era) อยู่ในช่วง  65 ล้านปีก่อนจนถึงปัจจุบัน  เป็นยุคของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม  ทั้งนี้ยุคเซโนโซอิกได้ถูกแบ่งย่อยอีกเป็นยุคย่อยๆ อีก 2 ยุค คือ
                  เทอร์เชียรี (Tertiary) อยู่ในช่วง 65 – 1.8 ล้านปีก่อน  เป็นยุคเริ่มของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม บอลสเต็ป
                  ควอเทอนารี (Quaternary) คือช่วง 1.8 ล้านปีก่อนจนถึงปัจจุบัน เป็นยุคสมัยของสิ่งมีชีวิตปัจจุบัน

           ในการศึกษาฟอสซิล (ซากสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์)   นักวิทยาศาสตร์กำหนดคาบเวลาในมหายุคอาร์เคียนและโปรเทอโรโซอิกว่า “พรีแคมเบรียน” (Precambrian) ถือเป็นยุคที่ยังไม่มีฟอสซิลปรากฏชัดเจน   และแบ่งมหายุคฟาเนอโรโซอิกออกเป็น 11 คาบ  (Period)  โดยถือตามการเปลี่ยนแปลงประเภทของฟอสซิล ดังนี้

           1. พรีแคมเบรียน (Precambrian) เป็นช่วงเวลานับตั้งแต่โลกถือกำเนิดขึ้นมาจนถึง 545 ล้านปีก่อน เป็นช่วงเวลาที่ปรากฏฟอสซิลให้เห็นน้อยมาก หินอัคนีที่เก่าแก่ที่สุดพบที่กรีนแลนด์มีอายุล้านปี   หินตะกอนที่เก่าแก่ที่สุดพบที่ออสเตรเลียมีอายุ 3.8 พันล้านปี   ฟอสซิลที่ดึกดำบรรพ์ที่สุดคือ แบคทีเรียนโบราณอายุ 3.4 พันล้านปี บอลสเต็ป
           2. แคมเบรียน (Cambrian) เป็นคาบแรกของยุคพาเลโอโซอิก ในช่วง 545 – 490 ล้านปีก่อน เกิดทวีปใหญ่รวมตัวกันทางขั้วโลกใต้  เป็นยุคของแบคทีเรียสีเขียวและสัตว์มีกระดอง  เป็นช่วงเวลาที่สัตว์ยังอาศัยอยู่ในทะเล บนพื้นแผ่นดินยังว่างเปล่า  สัตว์มีกระดอง ได้แก่ ไทรโลไบต์ หอยสองฝา ฟองน้ำ และหอยทาก   พืชส่วนใหญ่เป็นสาหร่ายทะเล เป็นต้น   ไทรโลไบต์สูญพันธุ์ในช่วงปลายยุคนี้
           3. ออร์โดวิเชียน (Ordovician) อยู่ในช่วง 490 – 443 ล้านปีก่อน ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  สโตรมาโทไลต์ลดน้อยลง  เกิดประการัง ไบรโอซัว และปลาหมึก สัตว์ทะเลแพร่พันธุ์ขึ้นสู่บริเวณน้ำตื้น เกิดสัตว์มีกระดูกสันหลังขึ้นเป็นครั้งแรกคือ ปลาไม่มีขากรรไกร  เกิดสปอร์ของพืชบกขึ้นครั้งแรก
           4. ไซลูเรียน (Silurian) อยู่ในช่วง 443 – 417 ล้านปีก่อน  เกิดสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกซึ่งใช้พลังงานเคมีจากภูเขาไฟใต้ทะเล (Hydrothermal) เกิดปลามีขากรรไกร และสัตว์บก ขึ้นเป็นครั้งแรก บนบกมีพืชที่ขยายพันธุ์ด้วยสปอร์
           5. ดีโวเนียน (Devonian) อยู่ในช่วง 417 – 354 ล้านปีก่อน อเมริกาเหนือ กรีนแลนด์ สก็อตแลนด์ รวมตัวกับยุโรป   ถือเป็นยุคของปลา ปลามีเหงือกแพร่พันธุ์เป็นจำนวนมาก เกิดปลามีกระดอง ปลาฉลาม  หอยฝาเดียว (Ammonite) และแมลงขึ้นเป็นครั้งแรก  บนบกเริ่มมีพืชที่ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด  และมีป่าเกิดขึ้น
           6. คาร์บอนิเฟอรัส (Carboniferous) อยู่ในช่วง 354 – 295 ล้านปีก่อน  บนบกเต็มไปด้วยป่าเฟินขนาดยักษ์ปกคลุมห้วย หนอง คลองบึง ซึ่งกลายเป็นแหล่งน้ำมันดิบที่สำคัญในปัจจุบัน   มีการแพร่พันธุ์ของแมลง และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ  เริ่มมีวิวัฒนาการของสัตว์เลื้อยคลาน  กำเนิดไม้ตระกูลสน
           7. เพอร์เมียน (Permian) เป็นคาบสุดท้ายของยุคพาเลโอโซอิก ในช่วง 295 – 248 ล้านปีก่อน  เปลือกทวีปรวมตัวกันเป็นทวีปขนาดใหญ่ชื่อ แพงเจีย ในทะเลเกิดแนวประการังและไบโอซัวร์  บนบกเกิดการแพร่พันธุ์ของสัตว์เลื้อยคลานเลี้ยงลูกด้วยนม ในปลายคาบเพอร์เมียนได้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งยิ่งใหญ่ (Mass extinction) สิ่งมีชีวิตทั้งบนบกและในทะเลหายไปร้อยละ 96 ของสปีชีส์  นับเป็นการปิดยุคพาเลโอโซอิกบอลสเต็ป
           8. ไทรแอสสิก (Triassic) เป็นคาบแรกของยุคเมโสโซอิก ในช่วง 248 – 205 ล้านปีก่อน  เกิดสัตว์เลื้อยคลานเลี้ยงลูกด้วยนม และสัตว์ต้นตระกูลไดโนเสาร์  ป่าเต็มไปด้วยสนและเฟิร์น
           9. จูแรสสิก (Jurassic) เป็นคาบกลางของยุคเมโสโซอิก ในช่วง 205 – 144 ล้านปีก่อน  เป็นยุคที่ไดโนเสาร์ครองโลก   เริ่มมีสัตว์ปีกจำพวกนก  ไม้ในป่ายังเป็นพืชไร้ดอก  ในทะเลมีหอยแอมโมไนต์
           10. ครีเทเชียส (Cretaceous) เป็นคาบสุดท้ายของยุคเมโสโซอิก ในช่วง 144 – 65 ล้านปีก่อน  มีงู นก และพืชมีดอก  ไดโนเสาร์วิวัฒนาการให้มี นอ  ครีบหลัง ผิวหนังหนาสำหรับป้องกันตัว ในปลายคาบครีเทเชียสได้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งยิ่งใหญ่ ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปหมดสิ้น  สิ่งมีชีวิตอื่นสูญพันธุ์ไปประมาณร้อยละ 70 ของสปีชีส์
           11. พาลีโอจีน (Paleogene) เป็นคาบแรกของยุคเซโนโซอิก ในช่วง 65 – 24 ล้านปี ทวีปอเมริกาเคลื่อนเข้าหากัน อินเดียเคลื่อนที่เข้าหาเอเซีย สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแพร่พันธุ์แทนที่ไดโนเสาร์ มีทั้งพวกกินพืชและกินเนื้อ บนบกเต็มไปด้วยป่าและทุ่งหญ้า  ในทะเลมีปลาวาฬ
           12. นีโอจีน (Neogene) อยู่ในช่วง 24 – 1.8 ล้านปีก่อน  เป็นช่วงเวลาของสัตว์รุ่นใหม่ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของสัตว์ในปัจจุบัน  รวมทั้งลิงยืนสองขาซึ่งเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ (Homo erectus) พลาลีโอจีนและนีโอจีนจัดว่าอยู่ในยุคย่อยชื่อ เทอเชียรี (Tertiary) ของยุคเซโนโซอิก   หลังจากนั้นจะเป็นยุคย่อยชื่อ ควอเทอนารี (Quaternary) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 สมัย (epoch) คือ
           13. ไพลสโตซีน (Pleistocene) อยู่ในช่วง 1.8 ล้านปี – 1 หมื่นปี  เกิดยุคน้ำแข็ง ร้อยละ 30 ของซีกโลกเหนือปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ทำให้ไซบีเรียและอล้าสกาเชื่อมต่อกัน เริ่มมีเสือเขี้ยวโค้ง ช้างแมมมอท และหมีถ้ำ  บรรพบุรุษของมนุษย์ได้อุบัติขึ้นในสายพันธุ์โฮโมเซเปียนส์ (Homo sapiens) เมื่อประมาณสองแสนปีที่แล้วบอลสเต็ป
           14. โฮโลซีน (Holocene) นับตั้งแต่สิ้นสุดยุคน้ำแข็งเมื่อ 1 หมื่นปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบันมนุษย์รู้จัการทำเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ และอุตสาหกรรม  ป่าในยุโรปถูกทำลายหมด ป่าฝนเขตร้อนกำลังจะหมดไป

รู้จัก 'ยา' ก่อนใช้รักษาโรค..บอลสเต็ป

ยามีความสำคัญกับชีวิต เป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่เราพึ่งพายามเจ็บไข้ได้ป่วย แต่การใช้ที่ไม่ถูกวิธีก็อาจนำมาซึ่งอันตราย เช่น อาจเกิดอาการแพ้ยา ซึ่งหลายคนไม่ทราบว่ายาตัวไหนที่เราแพ้ เพราะขาดความรู้เรื่องชื่อสามัญทางยา รู้จักเพียงแต่ชื่อยี่ห้อของยานั้นๆ ซึ่งหากเรารู้ชื่อสามัญของยาที่เราแพ้ เราก็สามารถบอกกับแพทย์หรือเภสัชกรให้ทราบเพื่อไม่ให้จ่ายยาชนิดดังกล่าวให้ เรา หรือรู้ถึงสาเหตุของอาการแพ้ยาที่เกิดขึ้นบอลสเต็ป




บอลสเต็ป
             ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังใช้ยาโดยไม่รู้จักชื่อจริงๆ ของยา (ที่เรียกว่า "ชื่อยาสามัญของยา") แต่กลับรู้จักแค่ "ชื่อการค้า" (หรือชื่อยี่ห้อ) ที่บริษัทพยายามให้เราติดหูติดตา ทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย เช่น การใช้ยาซ้ำๆ กันโดยไม่รู้ตัวจนอาจได้รับยาเกินขนาด หรือเกิดอาการแพ้ยาโดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองแพ้ยาอะไร ซึ่งเรื่องแบบนี้อาจทำให้เกิดอันตรายรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้บอลสเต็ป

             ปัจจุบันธุรกิจยาเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าสูงมาก บริษัทยาจึงพยายามทำให้ประชาชนผู้บริโภคติดกับชื่อการค้าของยามากขึ้น โดยเฉพาะยาจากต่างประเทศ (หรือที่บางคนเรียกว่า "ยาฝรั่ง") ทำให้หลงใช้ยาที่แพง ทั้งๆที่มีตัวยาเดียวกัน คุณภาพเท่ากัน แต่ราคาถูกกว่ามาก

             ดังนั้น เพื่อป้องกันอันตรายจากการใช้ยา สิ่งสำคัญที่สุดก็คือผู้บริโภคจำเป็นต้องรู้จักยาที่จะใช้วิธีง่ายๆ ที่จะทำให้เรารู้ได้ก็คือ การถามจากคุณหมอหรือเภสัชกรที่เป็นคนจ่ายยาให้กับเรา ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับยาที่เราควรรู้มีดังนี้
บอลสเต็ป
             1. ชื่อยาสามัญของยานี้คืออะไร
             2. ยานี้มีสรรพคุณอย่างไร
             3. ยานี้ใช้อย่างไร
             4. ยานี้ต้องระวังอย่างไร มีคำเตือน ข้อห้าม หรือข้อควรระวังอย่างไรบ้าง
             5. หากไปซื้อยาหรือรับยาจากร้านขายยาแผนปัจจุบัน ต้องสอบถามหรือดูให้แน่ใจว่า คนที่จัดยาให้กับเราเป็น "เภสัชกร" เพราะถือเป็นหน้าที่ตามกฎหมายของเภสัชกรประจำร้านขายยาแผนปัจจุบัน ที่จะต้องอยู่ทำหน้าที่ของตนในการหายาอย่างถูกต้องตรงกับโรคที่ผู้ป่วยต้องการรักษา





             เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยกฎหมายได้มีการกำหนดไว้ว่า ร้านขายยาปัจจุบันทุกแห่งต้องมีเภสัชกรประจำตลอดเวลาที่เปิดจำหน่ายยา หากไม่พบขอให้แจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหรือสภาเภสัชกรรมบอลสเต็ป

เตือนกินผงชูรสเสี่ยงอ้วนไม่รู้ตัว..บอลสเต็ป

 ฟังชื่อก็รู้แล้วว่าผงชูรสมีไว้ทำอะไร ถ้าไม่ใช่ช่วยชูรสชาติของอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้นจนวางช้อนกันไม่ลง เพราะแบบนี้แล้วจะไม่ให้คนรับประทานไม่อ้วนได้อย่างไรบอลสเต็ป





                ทว่า จากผลงานการศึกษาวิจัยล่าสุด ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารโภชนศาสตร์คลินิกของสหรัฐ พบว่า การรับประทานผงชูรสนี้มีส่วนสัมพันธ์กับปริมาณเส้นรอบเอวที่มีแนวโน้มว่าจะขยายออกอย่างมีนัยสำคัญบอลสเต็ป

                ทั้งนี้ สาเหตุหลักๆ ไม่ใช่แต่เพียงเพราะอาหารอร่อยถูกปากจนทำให้ผู้รับประทานรับประทานไม่หยุด จนเผลอรับประทานเยอะกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการได้รับในแต่ละวันแล้ว แต่ผงชูรส หรือโมโนโซเดียมกลูตาเมต(เอ็มเอสจี) นี้ มีผลกระทบกับการทำงานของฮอร์โมนในร่างกายตัวหนึ่งที่ชื่อว่า เลปติน(Leptine)

                ฮอร์โมนเลปตินที่ว่านี้มีส่วนสำคัญอย่างมากในการควบคุมความหิวและกระบวน การเผาผลาญอาหารในร่างกาย ซึ่งจากผลการศึกษาได้ค้นพบว่า คนที่รับประทานผงชูรสมากร่างกายก็จะยิ่งผลิตเลปตินมากขึ้นเท่านั้นบอลสเต็ป

                ซึ่งนั่นหมายความว่า เมื่อร่างกายผลิตเลปตินมากขึ้นก็จะส่งผลให้เกิดภาวะต้านเลปติน  จนร่างกายไม่สามารถนำพลังงานที่ได้รับจากอาหารไปใช้ได้อย่างเต็มที่

                "เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นคำตอบที่อธิบายว่าทำไมคนที่รับประทานผงชูรสถึงมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าเจ้าตัวจะรับประทานแคลอรีน้อยลงแล้วก็ตาม" คา ฮี ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและโภชนาการจากมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมที่ได้ทำการศึกษาในครั้งนี้ กล่าว

                ทั้งนี้ ทางทีมงานได้ใช้ระยะเวลาในการศึกษาเก็บข้อมูลอยู่นานถึง 5 ปีครึ่ง ในกลุ่มตัวอย่างประชากรชาวจีนในวัยผู้ใหญ่ 1 หมื่นราย โดยขอให้ผู้ที่เข้าร่วมงานวิจัยชั่งปริมาณผลิตภัณฑ์เอ็มเอสจีก่อนและหลังการรับประทาน เช่น ขวดซีอิ๊ว เพื่อดูว่าคนเหล่านั้นรับประทานเข้าไปมากน้อยแค่ไหนบอลสเต็ป

                ผลที่ได้ระบุว่า ชายและหญิงที่รับประทานเอ็มเอสจีมากกว่า 5 กรัมต่อวัน มีแนวโน้ม 30%ที่จะมีน้ำหนักเกินมาตรฐานเมื่อจบการทดลองเปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับเอ็มเอสจีในปริมาณครึ่งกรัมต่อวัน

                ทั้งนี้ทั้งนั้น บรรดานักโภชนาการจากมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนาเสริมว่า ทางทีมงานยังคงต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมต่อไปเพื่อให้ข้อสรุปที่ได้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

                เอาเป็นว่าในช่วงนี้ผู้บริโภคทั้งหลายก็ควรระมัดระวังในการรับประทานผงชูรส และผงปรุงรสทั้งหลายเอาไว้ให้ดี เนื่องจากในผงเหล่านั้นมีปริมาณเกลือที่ค่อนข้างสูง ส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะบวมน้ำ จนทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นในที่สุดบอลสเต็ป

อารมณ์ดี๊ ดีได้ด้วยอาหาร..บอลสเต็ป

ร่างกายกับจิตใจของเราสัมพันธ์กัน อาหารที่ดีจะกระตุ้นให้สมองโปร่งโล่งและจิตใจสดใส สิ่งที่คุณควรจะนึกถึงเวลากินเพื่อความสุขจึงควรจะเป็นสารอาหาร 5 ชนิดดังต่อไปนี้...

คาร์โบไฮเดรตบอลสเต็ป
               คาร์โบไฮเดรตมีส่วนสัมพันธ์อย่างมากกับกระบวนการผลิตเซโรโทนินฮอร์โมนแห่งความสุขที่จะช่วยกล่อมเกลาจิตใจ โดยคุณจะสังเกตได้ว่าคนที่ลดน้ำหนักแบบโลว์-คาร์บมักจะมีอารมณ์ฉุนเฉียว และสมองก็ต้องการน้ำตาลไปเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอเพื่อที่จะมีประสิทธิภาพได้ อย่างเต็มที่ การศึกษามากมายที่บอกว่าคนที่มีโรคซึมเศร้ามักจะมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ด้วย ทั้งนี้ คาร์โบไฮเดรตก็มีหลายประเภท และประเภทที่ดีก็มักจะอยู่ในผัก ผลไม้ อาหารธัญพืช (ตรงกันข้ามกับขนมหวาน เค้ก หรือโดนัท) เทคนิคในการกินก็คือ แบ่งเป็นมื้อเล็กๆ 5-6 มื้อ แต่ละมื้อกินคาร์โบไฮเดรตประมาณ 15 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่พบได้ในแอปเปิ้ลขนาดกลางหนึ่งลูก จะช่วยเลี้ยงสมองให้สดใสได้มากเลยบอลสเต็ป

กรดไขมันโอเมก้า-3
               สมองของมนุษย์ประกอบไปด้วยไขมันถึง 60% ผู้เชี่ยวชาญมากมายจึงเชื่อว่า ปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 (เช่น ปลาแซลมอน ปลาแม็กเคอเรล และทูน่า) จะช่วยต้านอาการซึมเศร้า เพราะสารสื่อประสาทในสมองจะเคลื่อนตัวได้ดีกว่าในเมมเบรนไขมันที่เกิดจากกรด ไขมันโอเมก้า-3 นอกจากนี้ ปลายังช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนิน ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายขึ้นด้วย

วิตามินบีบอลสเต็ป
               วิตามินบีมากมายหลายชนิดมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของสารสื่อประสาทในสมอง วารสาร BMJ เคยเผยแพร่ว่า มีงานวิจัยอย่างน้อย 8 ชิ้น ที่ระบุว่า 1 ใน 3 ของคนที่เป็นโรคซึมเศร้านั้นมักจะกินกรดโฟลิคน้อยกว่าคนอื่นๆ นี่ทำให้ระดับฮอร์โมนเซโรโทนินลดลงเช่นกัน สำหรับภาวะขาดวิตามินบี 6 จะะทำให้คุณรู้สึกซึมเศร้าและกระวนกระวาย นอกจากนี้ โรคซึมเศร้ายังเกี่ยวข้องกับการขาดวิตามินบี1 (ไธอามิน) หากปล่อยไปโดยไม่ได้รับการรักษา อาจจะทำให้เส้นประสาทเสียหายถาวร เช่นเดียวกับการขาดวิตามินบี 12 เจอวิตามินบีได้ที่...

               B 6    : เนื้อสัตว์ กล้วย อาหารธัญพืช ถั่ว
               B 12  :  ตับ หอยนางรม หอยแครง ไก่งวง ปู
               B 1    : หน่อไม้ฝรั่ง เห็ด เมล็ดทานตะวัน ปลาทูน่า ถั่วเขียน มะเขือเทศ มะเขือม่วง

ทริปโตฟานบอลสเต็ป
               นี่คือกรดอะมิโนจำเป็น (หมายความว่า ร่างกายเราต้องการมันแต่ไม่สามารถสร้างได้ด้วยตัวเอง) คือสารตั้งต้นในกระบวนการผลิตเซโรโทนิน แต่ตรงกันข้ามกับความเชื่อส่วนใหญ่ ไก่งวงไม่ใช่แหล่งทริปโตฟานที่ดีที่สุด กลับเป็นข้าวโอ๊ต กล้วย นม มะม่วง และช็อกโกแลต ซึ่งควรเป็นแบบดาร์กช็อกโกแลต





แร่ธาตุ
               คนไทยจำนวนมากไม่ได้รับแมกนีเซียมจากอาหารการกินมากพอ และเราจะพบว่าคนที่มีโรคจิตเภทเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรคไบโพลาร์ มีแมกนีเซียมน้อยมาก แต่เราสามารถหาได้จากถั่วดำ บร็อกโคลี่ดิบ ปลาน้ำเย็น ถั่ว หอยนางรม หอยเชลล์ เมล็ดพืช นมถั่วเหลือง ผักโขม เต้าหู้ และธัญพืชทั้งหลาย ส่วนอีกแร่ธาตุหนึ่งก็คือ แมงกานีส ที่หากมีน้อยก็จะทำให้คุณเสี่ยงกับโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน แมงกานีสจะมีมากใน จมูกข้าว อบเชย ขิง ขมิ้น ถั่วเปลือกแข็ง หอยนางรม หอยแมลงภู่ หอยแครง ผงโกโก้ ดาร์กช็อกโกแลต ถั่วแระ พริก เมล็ดทานตะวันบอลสเต็ป

เติมอิ่มกับอาหารเช้าเมนูสบายท้อง..บอลสเต็ป

 รับอรุณเริ่มต้นวันใหม่ มาเติมเต็มให้เช้าของคุณสดใสด้วยเมนูง่ายๆ ที่ให้ทั้งพลังงานและความอร่อยกับ 5 เมนูยอดฮิตติดชาร์ต ที่คุณเองก็ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน โดยที่เราจัดสูตรลับความอร่อยมาเสิร์ฟให้ถึงที่บ้านคุณบอลสเต็ป





โยเกิร์ตซอสเบอร์รี่  บอลสเต็ป
           เปลี่ยนโยเกิร์ตรสธรรมชาติให้เข้มข้น ด้วยซอสรสเปรี้ยวหวานที่ปรุงง่ายๆ

ส่วนผสมสำหรับ 2-3 ที่
           โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 3-4 ถ้วย เบอร์รี่แช่แข็ง ½ ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ถ้วย น้ำผึ้ง ½ ถ้วย น้ำสุก ½ ถ้วย ผลไม้สดตัดแต่งตามชอบ เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำ
           1. ตักโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่ชอบใส่ลงในแก้ว นำไปแช่เย็นเตรียมไว้ แล้วเคี่ยวน้ำตาล น้ำผึ้งกับน้ำสุกพร้อมเบอร์รี่แช่แข็ง
           2. จากนั้น เติมเกลือเล็กน้อย คนไปเรื่อยๆ ให้เข้ากันจนข้นเป็นซอส ชิมรส ตั้งพักให้เย็นลงก่อนนำไปราดลงในแก้วโยเกิร์ตพร้อมผลไม้สดตัดแต่งตามชอบ
               เวลาในการปรุง 10 นาที
               ส่วนผสมราคาประมาณ 140 บาทบอลสเต็ป





ข้าวต้มไก่
           น้ำซุปหอมกลมกล่อม เข้มข้นอร่อยรสขึ้นได้ด้วยน้ำมันกระเทียมเจียว

ส่วนผสมสำหรับ 1-2 ที่
           ข้าว 1 ถ้วย เนื้ออกไก่บด 150 กรัม น้ำสต็อกผัก 2 ถ้วย ซีอิ๊วขาว 4-5 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา ขึ้นฉ่าย ต้นหอม และผักชีซอย 1 ถ้วย น้ำมันกระเทียมเจียว 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำบอลสเต็ป
           1. เติมซีอิ๊วและน้ำตาลลงคลุกเคล้ากับเนื้อไก่ให้เข้ากัน แล้วปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ใส่ลงในน้ำซุปเดือดๆ รอจนสุก ตักขึ้นพักไว้
           2. ต้มน้ำซุปพอเดือดอีกครั้ง ใส่ข้าวแล้วเคี่ยวจนเมล็ดข้าวสุกบาน จากนั้น ใส่เนื้อไก่ปรุงรสที่พักไว้ ปรุงรสข้าวต้มด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย แล้วโรยหน้าด้วยน้ำมันกระเทียมเจียว ขึ้นฉ่าย ต้นหอม และผักชี พร้อมเสิร์ฟ
               เวลาในการปรุง 20 นาที
               ส่วนผสมราคาประมาณ 160 บาท

ขนมครกทรงเครื่อง
           เมนูอาหารในตอนเช้าที่คุ้นตา เค็มๆ หวานๆ หอมกลิ่นกะทิ และอร่อยรส กับหน้าที่หลากหลาย

ส่วนผสมสำหรับ 2-3 ที่
เครื่องปรุงตัวแป้ง
           แป้งข้าวเจ้าอย่างดี 2 ถ้วย น้ำกะทิ ½ ถ้วย น้ำสุก 2 ถ้วย น้ำปูนใส 2 ถ้วย น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำร้อน ½ ช้อนโต๊ะ เกลือป่นเล็กน้อย

เครื่องปรุงหน้ากะทิ
           หัวกะทิ 1 ถ้วย น้ำตาลทราย ½ ถ้วย เกลือป่น 1 ½ ช้อนชา ต้นหอมซอย 3-4 ต้น ฟักทองและเผือกต้มสุกหั่นเต๋าเล็กสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ
           1. ค่อยๆ เทแป้งข้าวเจ้าลงผสมกับน้ำสุกและน้ำปูนใส คนให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วเติมน้ำกะทิ น้ำตาลมะพร้าว และเกลือป่น คนให้เข้ากัน อีกครั้งพักไว้ จากนั้น จึงค่อยเคี่ยวเครื่องปรุงส่วนหน้าขนมให้เข้ากัน พักไว้ให้เย็น
           2. ตั้งกระทะขนมครกแล้วเช็ดเบ้าด้วยน้ำมันเล็กน้อย ตักแป้งหยอดลงในเบ้า ¾ ส่วน พักให้แป้งสุกสัก 2-3 นาที หยอดหัวกะทิลงในส่วนที่เหลือแล้วโรยหน้าตามชอบ รอจนชอบแป้งเหลืองแล้วค่อยแซะขึ้น พร้อมเสิร์ฟ
               เวลาในการปรุง 10 นาที
               ส่วนผสมราคาประมาณ 80 บาท

สังขยาขนมปัง  
           กรุ่นกลิ่นใบเตยต้องรสหวานลิ้นกลมกล่อมน้ำตาลมะพร้าวเข้ากัน

ส่วนผสมสำหรับ 2-3 ที่
           หัวกะทิ 1 ถ้วย น้ำตาลมะพร้าว ½ ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ถ้วย แป้งสาลี 1-2 ช้อนโต๊ะ นมข้นจืด 1 ถ้วย ไข่แดง 1 ฟอง ใบเตยสด 3 ใบ แป้งมัน 1-2 ช้อนโต๊ะ เกลือเล็กน้อย

วิธีทำ
           1. นำใบเตยสดไปปั่นกับน้ำเล็กน้อยจนละเอียดแล้วกรองเอาแต่น้ำพักไว้ ใส่นมข้นจืดลงในหม้อตามด้วยไข่แดงแล้วคนให้เข้ากัน จากนั้น ใส่น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย เกลือ หัวกะทิ และน้ำใบเตย คนให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วค่อยละลายแป้งสาลีและแป้งมันใส่ตามลงไป
           2. นำหม้อขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ คนไปเรื่อยๆ จนแป้งขึ้นเงาและสุกทั่วแล้วค่อยยกลง
               เวลาในการปรุง 10 นาที
               ส่วนผสมราคาประมาณ 140 บาท





วาฟเฟิล
           หากไม่มีอุปกรณ์ทำวาฟเฟิล ก็สามารถนำไปทอดในกระทะเคลือบได้เช่นกัน

ส่วนผสมสำหรับ 1-2 ที่บอลสเต็ป
           แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วย ไข่แดง 1 ฟอง นมสด 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ผงฟู 1 ช้อนชา เนย 1 ช้อนโต๊ะ เกลือเล็กน้อย

วิธีทำ
           1. ผสมแป้ง ผงฟู เกลือ และน้ำตาลเข้าด้วยกัน พักไว้ จากนั้นตีนมสดกับไข่แดงให้เข้ากัน แล้วนำไปตีผสมกับแป้งและเนยให้เข้ากันอีกครั้ง
           2. นำไปเทใส่ลงในเครื่องทำวาฟเฟิล รอจนสุกดีแล้วจัดใส่จานเสิร์ฟพร้อมไซรัปและแยมตามชอบ
               เวลาในการปรุง 10 นาที
               ส่วนผสมราคาประมาณ 110 บาท

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วันภาษาไทยแห่งชาติ..บอลสเต็ป

การที่คนไทยเรา พูด อ่าน และเขียนภาษาไทยเป็นประจำทุกวันจนเกิดความเคยชิน อาจจะทำให้หลายๆคนไม่รู้สึกว่า “ ภาษาไทย ” มีความสำคัญแค่ไหน และมีคุณค่าเพียงไร หากจะเปรียบก็คงเหมือนกับ “ อากาศ ” ที่เราหายใจเข้าหายใจออกอยู่ตลอดเวลา จนเราแทบไม่รู้ค่า ว่าหากขาดอากาศเมื่อไร เราก็ตายเมื่อนั้น ถึงแม้ว่า “ ภาษาไทย ” จะไม่เหมือนอากาศที่ทำให้เราถึงกับตาย แต่ถ้าหากชาติไทยเราขาด “ ภาษาไทย ” เมื่อไร นั่นก็หมายความว่า “ ความเป็นชาติ ” ส่วนหนึ่งก็สูญสิ้นไปด้วยบอลสเต็ป

        พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ได้มีพระราชนิพนธ์ตอนหนึ่งว่า “ ภาษาเป็นเครื่องผูกพันมนุษย์ต่อมนุษย์แน่นแฟ้นยิ่งกว่าสิ่งอื่น และไม่มีสิ่งไรที่จะทำให้คนรู้สึกเป็นพวกเดียวกันแน่นอนยิ่งไปกว่าพูดภาษาเดียวกัน ” คนไทยเราแม้จะต่างเผ่าพันธุ์ ต่างเชื้อชาติ ต่างท้องถิ่น หรือต่างศาสนา แต่เมื่อใดก็ตามที่เราต่างพูด “ ภาษาไทย ” ทุกคนย่อมรู้สึกได้ทันทีถึงความเป็นพวกเดียวกัน ความเป็นชาติเดียวกัน ดังนั้น “ ภาษา ” จึงเป็นสิ่งที่จะร้อยรัด และ ผูกพันคนในชาติให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ยิ่งหากอาศัยอยู่ในต่างประเทศ หรือแม้แต่ไปเที่ยว ถ้าได้ยินใครก็ตามพูด “ ภาษาไทย ” ขึ้นมา เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะเกิดความรู้สึกยินดีว่าเจอพวกเดียวกันแล้ว เจอคนไทยด้วยกันแล้วบอลสเต็ป

        การที่ “ ภาษา ” เป็นสิ่งสำคัญก็เพราะว่า ภาษาเป็นสื่อเสียงและสื่อสัญลักษณ์ของมนุษยชาติที่เกิดจากการสร้างสรรค์ และสั่งสมของบรรพบุรุษสืบทอดมาสู่ลูกหลาน เป็นเครื่องมือที่ทำให้คนในชาตินั้นๆติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันได้ และเป็นเหตุให้วัฒนธรรมในด้านอื่นๆเจริญขึ้นด้วย หากไม่มี “ ภาษา ” มนุษย์ก็คงไม่สามารถสืบทอดวิชาการความรู้จากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง และไม่อาจพัฒนาหรือรักษา “ ความเป็นชาติ ” ของตนไว้ได้ “ ภาษา ” จึงเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่ายิ่งของแต่ละชาติ
บอลสเต็ป

        อาจารย์จำนงค์ ทองประเสริฐ ราชบัณฑิตยสถาน ได้เคยเขียนคำนำในหนังสือ “ ภาษาของเรา ” ตอนหนึ่งว่า “ ในฐานะที่คนไทยเรา เป็นชาติที่มีวัฒนธรรมของตนเองมานับเป็นเวลาพันๆปี เรามีภาษาพูด ภาษาเขียน และเลขของเราใช้โดยเฉพาะ ซึ่งแม้แต่ชาติที่เจริญหรือเป็นมหาอำนาจอื่นๆบางชาติก็หามีครบอย่างเราไม่ บางชาติอาจจะมีแต่ภาษาพูด ขาดภาษาเขียน หรือบางชาติมีภาษาเขียน มีตัวหนังสือของตัวเอง แต่ขาดเลข ต้องขอยืมของชาติอื่นเขามาใช้ จึงนับว่าเป็นสิ่งที่เราน่าจะภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น เราจึงควรที่จะช่วยกันรักษาและส่งเสริมวัฒนธรรมในด้านภาษาของเราให้ยืนยงต่อไปตลอดกาล ชาติที่เป็นมหาอำนาจทางอาวุธ แต่ขาดอำนาจในทางวัฒนธรรมนั้น แม้จะเป็นผู้พิชิตทางด้านการทหาร ก็จะถูกพิชิตทางด้านวัฒนธรรม อย่างพวกตาดมองโกลที่พิชิตเมืองจีนแล้วตั้งราชวงศ์หงวนขึ้นมาครองจีน ในที่สุดก็ถูกพวกจีนที่มีวัฒนธรรมสูงกว่ากลืนชาติหมด.....วัฒนธรรมจึงนับว่าสำคัญยิ่งในอันที่จะพิชิตใจคน การพิชิตทางกายนั้นอาจกลับถูกพิชิตได้ง่าย แต่ การพิชิตทางด้านวัฒนธรรมนั้นเป็นการพิชิตทางด้านจิตใจ จึงเป็นการพิชิตที่นุ่มนวล เป็นการพิชิตที่ผู้ถูกพิชิตยอมสมัครใจให้พิชิต วัฒนธรรมที่สำคัญยิ่งของไทย และเป็นวัฒนธรรมไทยแท้ๆก็คือ ภาษา ซึ่งแม้ต่อมา จะมีภาษาอื่นมาปะปนอยู่บ้าง แต่ก็เป็นภาษาที่ถูกเรากลืนให้เป็นไทยหมดแล้วทั้งนั้น จึงนับว่าเป็นภาษาไทยโดยแท้ ”

        อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าเสียดายว่า ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการพัฒนาประเทศที่ผ่านมา นอกจากจะทำให้วิถีชีวิตของประชาชนคนไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายแล้ว อิทธิพลของกระแสวัฒนธรรมต่างชาติที่หลั่งไหลเข้าสู่สังคมไทยอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเทคนิคการสื่อสารสมัยใหม่ ยังมีส่วนทำให้ “ ภาษาไทย ” ที่ใช้ในปัจจุบันทั้งภาษาพูดและภาษาเขียนอยู่ในสภาวะเสื่อมโทรมลงอย่างน่าเป็นห่วง เนื่องจากคนไทยเองได้ละเลยต่อความสำคัญในการใช้ภาษาไทย และมีการใช้ภาษาที่ผิดเพี้ยนในการสื่อสารมากขึ้นทุกที จนเป็นที่น่าวิตกว่า หากไม่รีบช่วยกันแก้ไข นานไปเอกลักษณ์และคุณค่าของภาษาไทยอาจสูญหายไปจนหมดสิ้น
บอลสเต็ป
        ด้วยเหตุนี้ จึงได้มีการเสนอให้รัฐบาลจัดตั้ง “ วันภาษาไทย ” ขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นและปลุกจิตสำนึกให้คนไทยได้ตระหนัก และเห็นคุณค่าของภาษาไทย ซึ่งคณะรัฐมนตรีก็ได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๔๒ อันเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖ รอบ กำหนดให้วันที่ ๒๙ กรกฎาคมของทุกปีเป็น “ วันภาษาไทยแห่งชาติ ” ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัยเสนอ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและสนองพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านในด้านภาษาไทย รวมทั้งเพื่อกระตุ้นให้สถาบันการศึกษา องค์กร หน่วยงานต่างทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชนชาวไทย ได้ตระหนักในความสำคัญของภาษาไทย และร่วมใจกันใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง และรักษาภาษาไทยอันเป็นภาษาประจำชาติไว้ให้งดงามยั่งยืนตลอดไป การที่กำหนดเป็นวันนี้ เนื่องจากตรงกับวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ได้ทรงเสด็จฯไปเป็นประธานและทรงร่วมอภิปรายกับผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๐๕ เกี่ยวกับปัญหาการใช้คำไทย ซึ่งได้ทรงแสดงพระปรีชาสามารถและความสนพระราชหฤทัยห่วงใยในภาษาไทย จนเป็นที่ประทับใจผู้เข้าร่วมการประชุมครั้งนั้นเป็นอย่างยิ่ง และนับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของวงการภาษาไทย ที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว

        พระราชดำรัสในครั้งนั้น ตอนหนึ่งความว่า “ เรามีโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้ ปัญหาเฉพาะในด้านรักษาภาษานี้ก็มีหลายประการ อย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในทางออกเสียง คือให้ออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธีใช้ หมายความว่าวิธีใช้คำมาประกอบประโยค นับเป็นปัญหาที่สำคัญ ปัญหาที่สามคือความร่ำรวยในคำของภาษาไทย ซึ่งพวกเรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้ ...... สำหรับคำใหม่ที่ตั้งขึ้นมีความจำเป็นในทางวิชาการไม่น้อย แต่บางคำที่ง่ายๆก็ควรจะมี ควรจะใช้คำเก่าๆที่เรามีอยู่แล้ว ไม่ควรจะมาตั้งศัพท์ใหม่ให้ยุ่งยาก ...” นอกจากนี้ยังมีพระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๑๒ ความว่า “ ในปัจจุบันนี้ปรากฏว่า ได้มีการใช้คำออกจะฟุ่มเฟือย และไม่ตรงกับความหมายอันแท้จริงอยู่เนืองๆ ทั้งออกเสียงก็ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี ถ้าปล่อยให้เป็นไปดังนี้ ภาษาของเราก็มีแต่จะทรุดโทรม ชาติไทยเรามีภาษาของเราใช้เองเป็นสิ่งอันประเสริฐอยู่แล้ว เป็นมรดกอันมีค่าตกทอดมาถึงเราทุกคน จึงมีหน้าที่จะตัองรักษาไว้ ฉะนั้น จึงขอให้บรรดานิสิตและบัณฑิต ตลอดจนครูบาอาจารย์ได้ช่วยกันรักษาและส่งเสริมภาษา ซึ่งเป็นอุปกรณ์และหลักประกันเพื่อความเจริญวัฒนาของประเทศชาติ ”

        ในหนังสือ “ ภาษาไทยเรานี้มีทำนอง ” ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้กล่าวว่าชาติไทยเป็นชาติที่มีภาษาเป็นของตนเองมาตั้งแต่อดีตกาล บ่งบอกถึงความมีเอกลักษณ์และศักดิ์ศรีที่น่าภาคภูมิใจ

        “ ภาษาไทย ” เป็นภาษาที่มีการจัดวางระเบียบแบบแผนไว้อย่างประณีตบรรจง มีอลังการแห่งศิลปะของการผสมผสานเรียงร้อยถ้อยคำให้เป็นท่วงทำนองที่ไพเราะและเหมาะสมอย่างยิ่ง ดังนั้น ในโอกาส “ วันภาษาไทย ” ที่ ๒๙ กรกฎาคม ศกนี้ กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านได้น้อมรำลึกและปฏิบัติตามพระบรมราโชวาท ด้วยการช่วยกันธำรงรักษา “ ภาษาไทย ” ที่น่าภาคภูมิใจของเรา ให้เป็นสมบัติอันล้ำค่าสืบทอดต่อไปยังอนุชนรุ่นหลังอย่างถูกต้องและงดงามตลอดไปบอลสเต็ป

ดูแลแม่ท้องเป็นหวัด.บอลสเต็ป

หากป่วยไข้ในยามปกติคุณคงสามารถกินยารักษาอาการได้อย่างไม่กังวลอะไร แต่ในยามท้อง การจะทานยาสักเม็กคงต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะลูกต้องรับสารอาหารผ่านรกของคุณ หากทานยาในช่วงนั้นตัวยาก็อาจถูกส่งผ่านและเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์ได้ ฉบับนี้ Modern Mom จึงนำเคล็ดลับดูแลอาการไข้ด้วยวิถีธรรมชาติมาฝากคุณโดยเฉพาะค่ะบอลสเต็ป





ผลกระทบสู่ลูกบอลสเต็ป
              ผศ.นพ.เมธาพันธ์ กิจพรธีรานันท์ ภาควิชาสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ให้ข้อมูลถึงการเป็นหวัดในคุณแม่ท้องว่า จะต้องแบ่งไข้ออกเป็น 2 อย่าง คือไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดธรรมดา

              ถ้าคุณแม่เป็นไข้หวัดใหญ่ ก็อาจจะมีผลกระทบ เช่น อาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดเมื่อยเนื้อตัว และอาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรืออ่อนเพลีย คุณแม่อาจทานอาหารได้น้อยลง ก็อาจส่งผลถึงลูกได้ในแง่ว่าสารอาหารต่างๆ ก็ได้น้อยลง แต่เชื้อไข้หวัดใหญ่โดยทั่วไปไม่สามารถที่จะผ่านรกเข้าไปได้ แต่จะติดเชื้อทางเดินหายใจของคุณแม่

แต่หากเป็นไข้หวัดธรรมดานั้นจะไม่ค่อยมีผลกระทบถึงลูก นอกจากบางอาการเท่านั้น เช่น

              ไข้สูง : ถ้าแม่มีไข้สูง เด็กก็จะมีไข้ไปด้วย หัวใจก็จะเต้นเร็วขึ้น อาจมีเลือดสูบฉีดเร็วขึ้น ความดันเลือดอาจจะสูงขึ้น โดยทั่วไปเวลาคุณแม่มาตรวจ คุณหมอจะฟังเสียงหัวใจลูก 60 ครั้งต่อนาทีซึ่งก็ถือว่าเร็วกว่าปกติ ต้องมีการติดตามเพราะอาจมีความเสี่ยงเรื่องหัวใจวาย ช็อก แต่อย่ากังวลไปเพราะถือว่ายังมีโอกาสเกิดน้อยมากบอลสเต็ป
              ไอ : การที่แม่ไอเยอะๆ ไอมากๆ ก็อาจกระตุ้นให้มดลูกบีบรัดตัว บางรายอาจมาในอาการเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด อาจทำให้คลอดก่อนกำหนด ซึ่งก็จะทำให้เด็กตัวเล็กได้
              และสำหรับแม่ท้องเมื่อมีอาการเจ็บป่วยมักจะมีอาการมากกว่าผู้หญิงทั่วไป อาการจะเปลี่ยนแปลงเร็ว หากปล่อยไม่ดูแลมีโอกาสสูงที่จะลงปอด เป็นปอดบวมได้ แต่ไม่ว่าไข้หวัดใหญ่หรือไข้หวัดธรรมดา เชื้อหวัดนั้นจะไม่ไปถึงลูก ยกเว้นว่าแม่มาป่วยตอนกำลังจะเจ็บท้องคลอด แล้วเป็นหวัดพอดี พอลูกคลอดออกมาก็จะใกล้ชิดแม่ ก็มีโอกาสได้รับเชื้อ หากเป็นไข้หวัดใหญ่ปกติก็อาจจะต้องแยกแม่ลูกก่อน

ธรรมชาติบำบัด
              เมื่อเป็นหวัดแล้ว แม่ท้องควรหลีกเลี่ยงการใช้ยา โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก ที่อาจส่งผลต่อการฟอร์มสมองหรืออวัยวะต่างๆ ของลูก
บอลสเต็ป
              คุณนิวัฒน์ บวรกุลวัฒน์ นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ (แพทย์แผนไทยประยุกต์) กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำการดูแลตัวเองของแม่ท้องแบบธรรมชาติบำบัดว่า อยากให้เน้นการพักผ่อนและการกินอาหารให้เหมาะสม โดยให้กินอาหารที่อุ่นหรือร้อนนิดๆ แต่ไม่ใช่เผ็ดร้อน เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น เพราะเมื่อร่างกายอบอุ่น ร่างกายก็จะดูแลรักษาตัวเองได้ระดับหนึ่ง ส่วนการดูแลตามอาการนั้น ก็สามารถทำได้ ดังนี้

              มีไข้/คัดจมูก : นอนพักผ่อนเยอะๆ ดื่มน้ำเยอะๆ หรือใช้ยาจันทลิลา ซึ่งเป็นยาสมุนไพรสามัญประจำบ้าน เป็นเม็ดแคปซูลที่ประกอบด้วยสมุนไพร 8 ชนิด และรักษาร่างกายให้อบอุ่น
              ปวดหลัง : ใช้ลูกประคบอุ่นๆ มาประคบที่หลัง นวดเบาๆ ไม่ควรนวดแรงๆ เพราะอาจเกิดอาการเกร็งและส่งผลถึงเด็กในท้องได้ หรืออาจทาน้ำมัน ทายาหม่อง ที่ให้ความร้อนก็ใช้ได้เหมือนกัน
              ไอ/จาม : ให้ดื่มน้ำอุ่น หรือน้ำขิง โดยให้จิบบ่อยๆ ก็จะช่วยลดอาการไอ และเสมหะที่เหนียวเกาะก็จะลดลง โดยน้ำขิงนั้นไม่จำเป็นต้องใส่น้ำตาล เพราะจะหวานเกินความจำเป็นสำหรับแม่ท้อง
              เจ็บคอ : ดื่มน้ำอุ่นเยอะๆ หรืออาจใช้ยาอมมะแว้ง หรือมะนาว ซึ่งจะมีอยู่ในมื้ออาหารอยู่แล้ว เพียงแต่อาจต้องกินเยอะขึ้น

              แต่หากอาการหวัดของคุณแม่ท้องเป็นหนักและเป็นนาน ก็ควรไปพบคุณหมอเพราะอาจจะต้องได้รับยา ซึ่งต้องให้คุณหมอดูแลต่อไปค่ะ

ป้องกันไข้หวัดได้ง่ายๆ
              - หลีกเลี่ยงที่จะอยู่ใกล้บุคคลที่เจ็บป่วย หรือเป็นหวัด
              - กินอาหารร้อน หรืออุ่นๆ ไม่ควรร้อนไป หรือเย็นไป
              - ใช้ที่ปิดปาก-จมูกเป็นประจำ เมื่อบุคคลใกล้ตัวเป็นหวัด
              - ล้างมือบ่อยๆ
              - ให้อยู่ในบริเวณที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรอยู่ในห้องแอร์ เพราะอากาศไม่ถ่ายเท และเชื้อโรคก็จะวนเวียอยู่ไม่ไปไหนบอลสเต็ป
              - ดื่มน้ำมากๆ

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554

การพัฒนาทักษะสำหรับนักว่ายน้ำ.บอลสเต็ป

ขั้นตอนการพัฒนาทักษะท่าฟรีสไตล์ และกรรเชียงบอลสเต็ป

เตะเท้าด้านหลัง (ตะแคง) หายใจ ทุก ๆ การเตะเท้า 12 ครั้ง
เตะเท้าด้านข้างและใช้มือพายน้ำ โดยในท่าฟรีสไตล์ เน้นให้นิ้วโป้งชี้ลงข้างล่าง ส่วนท่ากรรเชียงเน้นให้นิ้วโป้งชี้ขึ้น และคางชิดกับหัวไหล่ที่อยู่ผิวน้ำ สายตามองตรง หน้านิ่ง

การพายน้ำนั้น นิ้วมืออยู่ต่ำกว่าข้อมือ และข้อศอกอยู่สูงกว่าข้อมือตามลำดับ เพื่อป้องกันข้อศอกงอหรือศอกตกนั่นเอง ข้อมือต้องไม่เกร็ง ไม่จำเป็นต้องทำมือเป็นอุ้ง การพายน้ำอาจใช้ Paddle  ในการพายน้ำได้เป็นการเพิ่มความหนักกับการจับน้ำได้อีก Paddle ที่ใช้ สามารถใช้ขนาดใหญ่ได้ บอลสเต็ป

การเตะเท้า 12 ครั้ง จะเร่งการปฏิบัติด้วยการเน้นการพายน้ำด้วยการกดลง และสามารถทำสลับทั้งสองข้างซ้ายและขวาได้ การกดฝ่ามือลงในการพายน้ำ จำเป็นอย่างยิ่งในท่ากรรเชียง
การว่ายแขนเดียว โดยเตะขา 12 ครั้ง แล้วเปลี่ยนข้างจากซ้าย – ขวา การเพิ่มหรือลดจำนวนการเตะเท้า เป็นสิ่งที่ทำได้ จำนวนครั้งของการเตะเท้ามากยิ่งจะยากกว่า โดยยังคงรักษาลักษณะของฝ่ามือโดยนิ้วโป้งชี้ขึ้น สำหรับท่าฟรีสไตล์ และนิ้วโป้งชี้ลงสำหรับกรรเชียง ท่านี้ต้องพยายามรักษาตำแหน่งของศีรษะให้นิ่งขณะแขนเปลี่ยนจากซ้าย-ขวา หรือ ขวา-ซ้าย
แบบฝึก 99,77,55,33 คือ เลขตัวแรกคือจำนวนครั้งที่เตะเท้า และเลขตัวที่สอง (เท่ากัน) คือจำนวน สโตร์คที่ใช้ว่ายอย่างสมบูรณ์ในท่าปกติ ฟรีสไตล์และกรรเชียง รักษาความต่อเนื่อง ความเร็วในการเปลี่ยนข้าง (ซ้าย/ขวา) จะสร้างระยะทางต่อสโตร์คมากขึ้นได้ บอลสเต็ป

จุดสำคัญ ต้องมั่นใจได้ว่า การกลิ้งลำตัวต้องกลิ้งตลอดแนวยาวของลำตัว สะโพกและไหลนักกีฬาสามารถประเมินด้วยความรู้สึก
ของตนเองด้วยการดึงแขนเพียงข้างเดียว จากการวางมือลงสู่ผิวน้ำ คือ ผ่านลำตัว และผลักจนสุด ในจังหวะสำคัญตอนผลักสุดจะใช้การเตะเท้าช่วย ลำตัวจะกลิ้งตลอดแนวยาวของลำตัว ความรู้สึกนี้จะอยู่ในทุก ๆ สโตร์คทั้งท่าฟรีสไตล์และกรรเชียง
ว่ายแบบ 3 แขนแล้วจึงเปลี่ยน โดยเตะเท้า 12 ครั้ง ด้วยการดึงแขนเร็ว 3 แขน โดยกลิ้งสะโพกก่อนแขนฝ่ามือลงสู่ผิวน้ำ (Arm Enkey) ห้ามหายใจขณะใช้แขน แต่ให้หายใจในช่วงกลางของการเตะเท้า
ว่ายแบบ 3 แขนแล้วจึงเปลี่ยน แต่คราวนี้เปลี่ยนเมื่อครบ 5,7,9 หรือ 11 แขนซึ่งขึ้นอยู่กับเพศและความสามารถของนักว่ายน้ำใน
การทำ Drills แต่ยังคงรักษาการเตะเท้าแบบ 12 ครั้งอยู่
ว่ายแบบช้า (Slow motion) เป็นการว่ายแบบที่มีความสมบูรณ์แบบของเทคนิคการว่ายโดย ว่ายช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ยกเว้นการกลิ้งสะโพก และการผลักสุดในช่วงสุดท้ายของ FR และ BK
ว่ายแบบ “MAX” ทั้งเป็นการออกแรงเต็มที่ทั้งจำนวนสโตร์ค/นาที (Stroke Rate) และออกแรงเต็มที่ในการกลิ้งสะโพกโดยท่าฟรีสไตล์จะหายใจทั้ง 2 ข้างและเตะเท้าอย่างต่อเนื่องส่วนท่ากรรเชียง
ให้ยกศีรษะสูงและหมุนแขนเร็วที่สุด
เราสามารถดัดแปลงได้เพิ่งเติมดังนี้บอลสเต็ป

ท่าฟรีสไตล์ ให้ใช้ ตีนกบแบบสั้น
ท่ากรรเชียง ให้ใช้ แขนซ้าย 3 ครั้ง ช้า ๆ แขนขวา 3 ครั้ง ช้า ๆ และใช้ 6 แขนต่อเนื่องเร็ว ครั้งแรกทำ 25 เมตร และ 50 เมตร
“ต่ำสุด และสูงสุด” ที่ว่าใช้ต่ำสุดคือจำนวนสโตร์คไม่ว่าจะเป็น Drills หรือการว่ายก็ตาม และสูงสุดคือการออกแรงพยายาม ให้เต็มที่ เราจะรวมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน ผู้ฝึกสอนควรระลึกถึงข้อนี้เสมอ และในนักว่ายน้ำระดับสูง ผู้ฝึกสอนจะเพิ่งการตรวจสอบชีพจรเข้าไปด้วย โดยการวัดจำนวนครั้งที่ชีพจรเต้นภายใน 10 วินาที (หรือติดต่อ Webmaster เพื่อขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์วัดชีพจรอิเล็กโทรนิกส์แบบไร้สาย)

ว่ายเน้นการกลิ้งสะโพก ที่ความเร็วที่แตกต่างกัน ในท่าฟรีสไตล์และท่ากรรเชียง เช่น ว่ายกรรเชียง 4 สโตร์ค ว่ายฟรีสไลต์ 4 สโตร์ค และเราอาจจะเพิ่มการจับน้ำเข้าไปในแต่ละสโตร์คได้ และการจับน้ำในช่วงแรกของสโตร์เป็นสิ่งสำคัญมาก นั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของความถูกต้อง และจะเป็นการเริ่มต้นของการจับความรู้สึกของแรงกดที่ฝ่ามือและที่หน้าแขนหรือท้องแขน (furearms) นั่น! จะเป็นความเร็วของการว่ายน้ำในตอนต้น

ความสมบูรณ์ของความก้าวหน้า เกิดจากการใช้เวลาร่วมกันอย่างช้า ๆ ระหว่างการค้นหาสโตร์คของผู้ฝึกสอนและนักว่ายน้ำ อย่ารีบทำ Drills ลำดับขึ้นของการ Drills อันต่อ ๆ ไปจะเกิดขึ้นเนื่องจากความสมบูรณ์ของ Drills ขั้นนี้แล้วและอุปกรณ์ใน Drillsต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตีนกบ หรือ Paddle เมื่อถอดออกแล้ว ความสมบูรณ์ของ Drills ยังคงมีอยู่เช่นเดิม ผู้ฝึกสอนควรสังเกตความสามารถในการทำ Drills  และนักว่ายน้ำจะรู้สึกถึงการเพิ่มขึ้นของความเร็ว และการเร่งที่เกิดขึ้นเสมอ เพราะนั่นจะทำให้พบทักษะที่เพิ่มมากขึ้น มากขึ้นเสมอ การทำ Drills ไม่มีอะไรที่ง่าย ๆ มันมีอะไรมากมายที่จะทำให้สโตร์คเสีย ถ้าไม่ได้ตั้งใจทำให้ถูกต้องในแต่ละสโตร์ค เลยทีเดียว สโตร์คที่ดีมักเริ่มจาก Drills ที่ถูกต้องอย่างช้า ๆ และสมบูรณ์จนไปถึงความตั้งใจสูงสุด สู่การออกแรงสูงสุดในแต่ละสโตร์ค หมายเหตุ  แบบฝึก (Drills) เหล่านี้สามารถใช้ได้ในระยะทาง 25 หรือ 50 เมตร และบางครั้งอาจใช้ Paddle ด้วยบอลสเต็ป

การป้องกันโรคภูมิแพ้..บอลสเต็ป

ความสำคัญของการป้องกันโรคภูมิแพ้บอลสเต็ป

อุบัติการของโรคภูมิแพ้จากการสำรวจทั่วโลก และการสำรวจในประเทศไทยเอง พบว่า เพิ่มขึ้น 3 – 4  เท่า ภายในระยะเวลา 40  ปีที่ผ่านมา ขณะนี้ประเทศไทย มีอุบัติการของโรคภูมิแพ้โดยเฉลี่ยดังนี้ คือ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ร้อยละ 23-30, โรคหลอดลมอักเสบจากภูมิแพ้ หรือโรคหืด ร้อยละ 10-15, โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ ร้อยละ 15 และโรคแพ้อาหาร ร้อยละ 5  โดยอุบัติการในเด็ก จะสูงกว่าในผู้ใหญ่
บอลสเต็ป
โรคภูมิแพ้นั้น ถ้าไม่ได้รับการรักษา จะทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยแย่กว่าคนปกติ เช่น ไม่สามารถนอนหลับได้ตามปกติ, เรียนและทำงานได้ไม่เต็มที่ และอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น ไซนัสอักเสบ, ริดสีดวงจมูก, หูชั้นกลางอักเสบ, นอนกรน, ปอดอุดกั้นเรื้อรัง, ผิวหนังติดเชื้อ

สาเหตุของโรคภูมิแพ้บอลสเต็ป

เกิดจาก กรรมพันธุ์ และสิ่งแวดล้อม โดยพบว่า ถ้าบิดาหรือมารดาเป็นโรคภูมิแพ้ จะทำให้บุตรมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ ประมาณร้อยละ 30-50  แต่ถ้าทั้งบิดาและมารดาเป็นโรคภูมิแพ้ จะมีผลให้บุตรมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ มากขึ้นถึงร้อยละ 50 - 70 ในขณะที่เด็กที่มาจากครอบครัว ที่ไม่มีประวัติโรคภูมิแพ้เลย มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้เพียงร้อยละ 10  เนื่องจากในปัจจุบัน ยังไม่สามารถแก้ไขปัจจัยทางกรรมพันธุ์ได้  การควบคุมสิ่งแวดล้อม และการเลี้ยงลูกด้วยนมมารดา ตลอดจนการรับประทานอาหารที่เหมาะสม จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้ในบุตรได้
ทำไมการรับประทานอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสม จึงป้องกันโรคภูมิแพ้ได้

เนื่องจากโรคภูมิแพ้ส่วนใหญ่ สามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม และมีการศึกษาที่แสดงว่า สิ่งแวดล้อมและอาหาร เป็นปัจจัยส่งเสริมที่สำคัญของการเกิดโรคภูมิแพ้  ดังนั้น การกำจัดและหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ และสารระคายเคืองต่างๆ  เช่น  ควันบุหรี่  ตั้งแต่แรกในเด็ก ที่เกิดในครอบครัวที่เป็นโรคภูมิแพ้ (ซึ่งเป็นเด็กที่มีความเสี่ยงสูง)  และการให้เด็กดื่มนมมารดา จะสามารถป้องกันไม่ให้เด็กเหล่านี้ เกิดโรคภูมิแพ้ขึ้นได้ ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ มักมีโรคภูมิแพ้ร่วมกันหลายชนิด  เช่นเด็กที่เป็นผื่นแพ้ผิวหนัง อาจพบมีการแพ้อาหารร่วมด้วย  ดังนั้น การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม จะสามารถลดอัตราการเกิดของการแพ้อาหารได้  การดื่มนมมารดาหรือนมสูตรพิเศษ (extensively hydrolyzed  formula หรือ partially hydrolyzed formula)  ซึ่งเป็นนมที่มีการสลายโปรตีน ที่ทำให้เกิดการแพ้ จะช่วยลดความเสี่ยง ในการเกิดโรคภูมิแพ้ได้  นอกจากนี้ การดื่มนมที่ผสมจุลินทรีย์สุขภาพ (probiotic bacteria) เช่น แลคโตบาซิลลัส และบิฟิโดแบคทีเรียม ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกาย มีการสร้างภูมิคุ้มกัน และลดอัตราการเกิดผื่นแพ้ผิวหนังได้
รับประทานอย่างไรจึงป้องกันโรคภูมิแพ้ได้

เด็กที่มีประวัติครอบครัว ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้  ควรหลีกเลี่ยงการดื่มนม และรับประทานอาหารที่มีโปรตีน ซึ่งก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ง่าย   โดยมีข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้

ดื่มนมมารดาอย่างน้อย 6 เดือน แต่ไม่ต้องจำกัดอาหารเป็นพิเศษ สำหรับมารดาช่วงระยะตั้งครรภ์และให้นมบุตร
กรณีที่ไม่สามารถให้นมมารดาได้  ควรเลี้ยงบุตรด้วยนมสูตรพิเศษจนกระทั่งเด็กมีอายุ 1 ปี
ไม่ควรเลี้ยงบุตรด้วยนมวัว และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร ที่มีนมวัวเป็นส่วนประกอบ จนกระทั่งเด็กมีอายุ 1 ปี
ไม่แนะนำให้ดื่มนมถั่วเหลือง นมแพะ นมแกะ ทั้งนี้เนื่องจากมีโอกาส ที่จะทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ เช่นเดียวกับการแพ้นมวัวบอลสเต็ป
ควรให้อาหารเสริมเมื่อเด็กมีอายุ 6 เดือน โดยแนะนำให้เด็ก รับประทานอาหารเสริมทีละชนิด และสังเกตว่ามีการแพ้อาหารที่ให้หรือไม่ ภายในหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่จะให้อาหารเสริมชนิดใหม่  อาหารเสริมที่ทำให้เกิดอาการแพ้น้อย ได้แก่ ข้าวบด  กล้วยน้ำว้า ฟักทอง น้ำต้มหมู น้ำต้มไก่ ผักใบเขียว
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานไข่ และอาหารที่มีไข่เป็นส่วนประกอบ จนกระทั่งเด็กมีอายุ 2 ปี
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานถั่ว และปลา จนกระทั่งเด็กมีอายุ 3 ปี
สำหรับเด็กที่ไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้ ควรดื่มนมมารดาอย่างน้อย 6 เดือน แต่ไม่จำเป็นต้องงดอาหารบางอย่างที่แพ้ง่าย (เช่น ไข่ ถั่ว ปลา) อาจเพิ่มสารอาหารอื่นๆ ที่อาจเสริมสร้างการทำงาน ของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้ ได้แก่ สังกะสี  วิตะมินเอ  ซิลีเนียม และนิวคลีโอไทด์  นอกจากนั้น การบริโภคกรดไขมันไม่อิ่มตัวบางชนิดเช่น docosahexaenoic acid (DHA) ในปริมาณที่เหมาะสม อาจช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ได้

นอกจากการรับประทานอาหารที่เหมาะสมแล้ว ควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ในบ้าน เช่น ไรฝุ่น,สัตว์เลี้ยง, เชื้อรา, แมลงสาบ  ตั้งแต่ขวบปีแรก โดย

ใช้เครื่องเรือนน้อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องนอน
งดใช้พรมปูพื้น ไม่ใช้เก้าอี้นอน หรือเครื่องเรือนที่บุด้วยผ้า ไม่ใช้ที่นอนหรือหมอน ที่ทำด้วยนุ่น หรือขนสัตว์  ควรใช้ชนิดที่ทำด้วยใยสังเคราะห์ หรือฟองน้ำ ควรคลุมที่นอน และหมอนด้วยผ้าพลาสติก หรือผ้าไวนิล หรือผ้าหุ้มกันไรฝุ่น
ไม่สะสมหนังสือหรือของเล่นที่มีขน
ซักผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน, ปลอกหมอน, ผ้าห่มทุก 1-2 สัปดาห์ โดยใช้น้ำร้อนอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
ดูดฝุ่น เช็ดถูทำความสะอาดพื้นและเครื่องเรือน เพื่อขจัดฝุ่นละอองเป็นประจำ
ไม่เลี้ยงสัตว์ที่มีขน เช่น สุนัข แมว ภายในบ้าน
พยายามอย่าให้เกิดความชื้น หรือมีบริเวณอับทึบภายในบ้าน เพื่อป้องกันเชื้อรา ไม่ควรนำต้นไม้ ดอกไม้สด หรือแห้งไว้ในบ้าน
จัดเก็บขยะและเศษอาหารให้มิดชิด เพื่อป้องกันและกำจัดแมลงสาบ
การปฏิบัติตังดังกล่าว และระวังไม่ให้เด็กได้รับควันบุหรี่, ควันจากท่อไอเสีย, ควันไฟ, ฝุ่นละอองจากแหล่งต่างๆ ตั้งแต่อายุน้อยๆ  สามารถป้องกัน โรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจได้บอลสเต็ป